ตู้สแตนเลสในครัว

ตู้สแตนเลสในครัว คือ ตู้เก็บของช่วยในการจัดเก็บอุปกรณ์ครัวอย่างมีระเบียบ โดยในครัวสมัยใหม่ ตู้สแตนเลสมี 2 แบบหลักที่นิยมใช้ ได้แก่ เคาน์เตอร์ (Under-counter Cabinet) และ ตู้ลอย (Wall-mounted Cabinet) เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในครัวทั้งบ้านและร้านอาหาร มีคุณสมบัติที่ทนทานต่อการกัดกร่อน, ง่ายต่อการทำความสะอาด, และดูแลรักษาง่าย ด้วยความแข็งแรงและการออกแบบที่ทันสมัย ตู้สแตนเลสจึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการจัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ

สินค้าแนะนำและใกล้เคียง

ตู้ลอยสแตนเลส (Wall-mounted Cabinet) คืออะไร?

ตู้เก็บของที่ทำจากสแตนเลสและติดตั้งแขวนอยู่บนผนัง ไม่สัมผัสพื้น เหมาะสำหรับใช้ในครัว โรงงาน หรือพื้นที่ที่ต้องการความสะอาด และการจัดเก็บที่เป็นระเบียบ โดยเฉพาะในครัวที่ต้องการใช้พื้นที่แนวตั้งให้เกิดประโยชน์สูงสุด

รายละเอียดสินค้าและราคา

ตู้สแตนเลสในครัวกับตู้ลอยสแตนเลส ต่างกันอย่างไร?

การเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับลักษณะพื้นที่ใช้งานและประเภทอุปกรณ์ที่ต้องการจัดเก็บ หากต้องการเก็บของหนักและใช้พื้นที่บนพื้น ควรเลือกตู้เคาน์เตอร์ แต่หากต้องการประหยัดพื้นที่พื้นและเก็บของเบาๆ ตู้ลอยสแตนเลสก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมช่วยจัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ให้เป็นระเบียบ แต่ทั้งสองประเภทนี้มีลักษณะการติดตั้ง การใช้งาน และจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่และลักษณะการทำงาน จะช่วยให้ครัวของคุณใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตารางฟังก์ชันเพิ่มเติมสำหรับตู้คอนโทรลสแตนเลส:

รายการเคาน์เตอร์ (Under-counter Cabinet)ตู้ลอย (Wall-mounted Cabinet)
ตำแหน่งติดตั้งใต้เคาน์เตอร์, บนพื้นแขวนบนผนัง
เก็บของอุปกรณ์หนัก, เครื่องใช้ไฟฟ้าของเบา เช่น จาน ชาม เครื่องปรุง
ประโยชน์หลักรองรับของหนัก เพิ่มพื้นที่ทำงานประหยัดพื้นที่ ใช้งานแนวตั้ง
วัสดุที่ใช้สแตนเลส ทนทานสแตนเลส น้ำหนักเบา
  • โครงสร้างแข็งแรง: ผลิตจากสแตนเลสคุณภาพสูง เช่น SUS 304 ทนต่อความชื้น, ความร้อน, และการกัดกร่อน

  • รับน้ำหนักได้มาก: สามารถเก็บอุปกรณ์หนัก เช่น หม้อ, กระทะ, เครื่องผสมอาหาร หรือเครื่องมือครัวขนาดใหญ่

  • ดีไซน์เรียบง่าย: เหมาะสำหรับครัวบ้าน, ครัวร้านอาหาร, หรือครัวอุตสาหกรรม

  • ทำความสะอาดง่าย: พื้นผิวเรียบลื่น ไม่สะสมเชื้อโรคหรือละอองอาหาร

  • ช่วยให้พื้นที่ทำงานเป็นระเบียบ: เก็บของให้พ้นจากพื้นที่ทำอาหาร ทำให้โต๊ะเคาน์เตอร์โล่งและสะดวกต่อการใช้งาน

ตู้สแตนเลสในครัว คือ
คุณสมบัติเด่นของตู้ลอยสแตนเลส
  • ติดตั้งบนผนัง เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่พื้น ใช้พื้นที่แนวตั้งให้เต็มประสิทธิภาพ ตู้สแตนเลส

  • ผลิตจากสแตนเลส ที่ทนทานต่อความชื้น, การกัดกร่อน และการทำความสะอาดง่าย

  • มีหลายรูปแบบ เช่น บานเปิด บานเลื่อน หรือแบบเปิดโล่ง เพื่อความสะดวกในการหยิบใช้อุปกรณ์

  • รองรับน้ำหนักปานกลาง เหมาะกับการเก็บของเบาๆ ถึงกลาง เช่น จาน ชาม เครื่องปรุง หรือเครื่องครัวขนาดเล็ก

  • ดูทันสมัยและสะอาดตา สร้างภาพลักษณ์ที่ดูเรียบร้อยและมีมาตรฐานสุขอนามัยที่ดี

เทคนิคดูแลตู้สแตนเลส
การใช้งานตู้สแตนเลสในครัวแบบเคาน์เตอร์
  • เก็บอุปกรณ์ทำอาหารขนาดใหญ่: เช่น หม้อแรงดัน, กระทะไฟฟ้า, เครื่องปั่น, หรือเตาไฟฟ้าแบบพกพา
  • เก็บวัตถุดิบหรือเครื่องปรุงที่ใช้บ่อย: เช่น ถุงแป้ง, น้ำตาล, น้ำมัน หรือเครื่องเทศต่างๆ
  • ซ่อนระบบหรืออุปกรณ์ต่างๆ: บางรุ่นออกแบบมาให้เก็บเครื่องล้างจานขนาดเล็กหรือระบบกรองน้ำใต้เคาน์เตอร์ได้ด้วย
  • เสริมความแข็งแรงให้โครงสร้างเคาน์เตอร์: ตู้ช่วยเสริมฐานของเคาน์เตอร์ให้แข็งแรงมากขึ้น รองรับการใช้งานหนักในชีวิตประจำวัน
  • จัดพื้นที่ให้เป็นระเบียบ: ลดการวางของระเกะระกะบนโต๊ะทำงาน เพิ่มพื้นที่ทำอาหารให้สะดวกคล่องตัว

การตู้สแตนเลสสั่งทำผลิตตามขนาด

การสั่งผลิตกันน้ำต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ประเภทของตู้ (แขวนผนัง, ตั้งพื้น, มีหลังคา) ขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน, ประเภทประตู (บานเดี่ยวหรือบานคู่), มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP Rating) ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น IP55, IP65 หรือ IP66 และวัสดุที่ใช้ (304 หรือ 316) ซึ่งขึ้นอยู่กับความทนทานต่อการกัดกร่อนและสารเคมีต่างๆ การเลือกตู้ไฟฟ้าที่ตรงกับความต้องการจะช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น.

ข้อกำหนดคำอธิบาย
1. ประเภทของตู้ตู้แขวนผนัง (Wall-Mounted): ติดตั้งบนผนัง ประหยัดพื้นที่ เหมาะกับอุปกรณ์ขนาดเล็กหรือในพื้นที่จำกัด
ตู้ตั้งพื้น (Floor-Standing): รองรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับโรงงานหรือสถานีไฟฟ้า
ตู้มีหลังคา (With Roof): เหมาะสำหรับการติดตั้งกลางแจ้ง ป้องกันน้ำฝนและแสงแดดได้ดี
2. ขนาดของตู้ และฟังค์ชั่นเพิ่มเติม

ขนาดมีผลต่อราคาตู้สแตนเลสต้องพิจารณาจากอุปกรณ์ที่จะติดตั้ง เช่น ขนาดของแผงควบคุมไฟฟ้า, เครื่องมือ หรือวงจรไฟฟ้า รวมถึงพื้นที่ที่ใช้ติดตั้ง
– การสั่งเจาะรูเข้าสายไฟ  หรือเจาะเลเซอร์ตามแบบ
– การตีบานเกล็ดระบายอากาศ สามารถตีบานเกร็ดได้ทั้ง 2 ฝั่ง

3. ประเภทประตูบานเดี่ยว (Single Door): เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กและใช้งานง่าย
บานคู่ (Double Door): เหมาะกับตู้ขนาดใหญ่ที่ต้องการเปิดกว้างเพื่อเข้าถึงอุปกรณ์
4. มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP Rating)IP55: กันฝุ่นบางส่วนและน้ำที่มีแรงดันปานกลาง
IP66: ป้องกันฝุ่น 100% และกันน้ำแรงดันสูง
5. วัสดุที่ใช้

สแตนเลส 304: เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ทนทานต่อการกัดกร่อน
สแตนเลส 316: ทนต่อสารเคมีและสภาพแวดล้อมที่มีความเค็มสูง เหมาะกับพื้นที่ชายฝั่งหรือโรงงานอาหาร

เลือกตู้สแตนเลสในครัวและเคาน์เตอร์อย่างไร

การเลือกสำหรับครัว ไม่ใช่แค่เลือกเพราะความสวยงามหรือราคา แต่ต้องคำนึงถึงการใช้งานจริง ความทนทาน และความเหมาะสมกับพื้นที่ เพื่อให้การทำอาหารเป็นไปอย่างสะดวก มีระเบียบ และปลอดภัยที่สุด มาดูกันว่าควรเลือกตู้แบบไหนให้ตอบโจทย์พื้นที่ใช้งานของคุณ

เลือกตู้สแตนเลสในครัว

1. วัดขนาดพื้นที่ติดตั้งอย่างละเอียด ก่อนเลือกตู้ ควร วัดขนาดความกว้าง, ความลึก และความสูง ของพื้นที่ที่จะติดตั้งอย่างแม่นยำ รวมถึงตรวจสอบพื้นที่เปิด-ปิดประตู หรือการดึงลิ้นชักว่ามีระยะใช้งานเพียงพอหรือไม่

  • ถ้ามีพื้นที่จำกัด เลือกตู้ทรงกะทัดรัด หรือแบบบานเลื่อนเพื่อลดการกินพื้นที่

  • ถ้ามีพื้นที่กว้าง เลือกตู้ขนาดใหญ่หรือหลายบานประตูได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของ


2. พิจารณาประเภทของของที่จะเก็บ ของที่คุณจะเก็บมีผลต่อการเลือก ตู้สแตนเลส:

  • เก็บของหนัก: เช่น หม้อ, เตาไฟฟ้า → เลือกตู้โครงสร้างแข็งแรง พื้นตู้รับน้ำหนักได้ดี

  • เก็บของเบา: เช่น จาน, ช้อนส้อม → ใช้ตู้ที่มีชั้นวางหลายระดับหรือลิ้นชัก

  • เก็บวัตถุดิบ: เช่น แป้ง, น้ำตาล → เลือกตู้ที่ปิดสนิท กันฝุ่นและความชื้นได้

  • หลีกเลี่ยงสแตนเลสเกรดต่ำ เพราะอาจเกิดสนิมเร็วเมื่อสัมผัสน้ำหรือไอน้ำในครัว


4. ตรวจสอบดีไซน์และฟังก์ชันเสริม เลือกดีไซน์ให้สอดคล้องกับการใช้งาน:

  • แบบมีลิ้นชัก: เหมาะสำหรับเก็บของเล็กชิ้น

  • แบบมีชั้นวาง: เหมาะกับเก็บของขนาดกลาง-ใหญ่

  • แบบบานเปิดคู่: เหมาะกับการเก็บของจำนวนมาก

  • ตู้แบบมีล้อเลื่อน: เหมาะกับครัวที่ต้องการเคลื่อนย้ายหรือปรับเปลี่ยนตำแหน่งบ่อย

ผลงานสินค้าและบริการของเรา

ผลงานตู้ไฟสแตนเลส
ผลงานตู้ไฟฟ้าสแตนเลส
ผลงานตู้คอนโทรลสแตนเลส
ผลงานตู้เก็บของสแตนเลส
เทคนิคดูแลและทำความสะอาดตู้สแตนเลสในครัว

ตัวเลือกยอดนิยมเพราะทนทานต่อสนิม ทนความชื้น และทำความสะอาดง่าย แต่หากใช้งานไม่ถูกวิธี หรือปล่อยให้สกปรกสะสม ก็อาจทำให้ตู้หมอง ไม่เงางามเหมือนใหม่ได้ เพื่อให้ตู้ของคุณดูดีเหมือนวันแรกนานหลายปี ลองทำตามเทคนิคเหล่านี้เลย!

1. เช็ดทำความสะอาดเป็นประจำ

  • หลังทำอาหารหรือใช้งานครัว ควรเช็ดตู้ด้วย ผ้านุ่มชุบน้ำสะอาดหมาดๆ เพื่อกำจัดคราบน้ำมัน, ไอน้ำ หรือฝุ่นที่เกาะอยู่

  • การทำความสะอาดบ่อยๆ จะช่วยป้องกันคราบฝังลึกที่ทำให้สแตนเลสหมอง


2. ใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยน

  • ใช้ น้ำสบู่อ่อนๆ หรือ น้ำยาล้างจานผสมน้ำเปล่า เช็ดทำความสะอาดได้ดี

  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของกรด, ด่างแรงๆ หรือคลอรีน เพราะจะทำลายผิวสแตนเลส

  • หากต้องการขจัดคราบหนักๆ เช่น คราบไขมันเกาะแน่น ให้ใช้น้ำส้มสายชูเจือจางแทน


3. เช็ดตามทิศทางลายสแตนเลส

  • สแตนเลสมักมีลายเส้นเล็กๆ (grain) บนพื้นผิว

  • เวลาทำความสะอาด ให้เช็ด ตามแนวลาย จะช่วยลดรอยขีดข่วนและทำให้ผิวดูสวยเงางามกว่า

FAQ คำถามที่พบบ่อย

สอบถามและปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าได้โดยตรง

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สินค้าและบริการ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดสินค้าเชิงเทคนิค การเลือกขนาดที่เหมาะสม หรือคำแนะนำในการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทีมงานของเรายินดีให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ เราพร้อมช่วยคุณ สามารถติดต่อเราผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์, อีเมล, หรือแชทออนไลน์ ทีมงานยินดีตอบทุกคำถาม เพื่อให้คุณมั่นใจในสินค้าที่เลือกใช้สินค้าและบริการ ติดต่อเรา ☑

บริการนำเข้าทางเครื่องบิน (Air Freight)

หากลูกค้ามีความต้องการใช้ สินค้าที่ผลิตจากต่างประเทศหรือสินค้าอื่น ๆ แบบเร่งด่วน ทางเรามีบริการจัดหาและนำเข้าสินค้าด้วยวิธีการขนส่งทางอากาศ (Air Freight) เพื่อให้สามารถจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วและตรงตามกำหนดเวลาการใช้งานของคุณ ระยะเวลาการจัดส่งรวดเร็ว: โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 3–7 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับประเทศต้นทางและสายการบินที่ให้บริการ) ติดต่อเรา ☑

มีสต็อกพร้อมส่งในประเทศ รองรับการใช้งานได้ทันที

เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เราได้ จัดเก็บสต็อกสินค้าเคเบิ้ลแกลนและอุปกรณ์อื่น ๆ ไว้ภายในประเทศ เป็นจำนวนมากและครอบคลุมหลายขนาด เพื่อให้สามารถจัดส่งได้อย่างรวดเร็วและรองรับทุกความต้องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่
✅ จัดส่งได้ทันทีภายใน 1–2 วันทำการ
✅ ปริมณฑล และต่างจังหวัด 2-3 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการขนส่งเอกชน) **สามารถระบุได้

สั่งผลิตตามขนาดและความต้องการใช้งานได้

เรามีบริการ ออกแบบและสั่งผลิตตู้ไฟฟ้าสแตนเลส (Stainless Steel Electrical Enclosure) ตามขนาดและรูปแบบที่ลูกค้าต้องการ เพื่อให้ตรงกับหน้างานจริงและเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานเฉพาะด้านของแต่ละอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นงานในพื้นที่กลางแจ้ง, พื้นที่เปียกชื้น, โรงงานอาหาร, เคมีภัณฑ์ หรืออุตสาหกรรมหนัก
✅เลือกขนาดได้อิสระ: กำหนด ความกว้าง x ความสูง x ความลึก ตามพื้นที่ใช้งาน