รางกระดูกงู รุ่นโปร่ง Open Type
รางกระดูกงูรุ่นโปร่ง หรือ Open Type Cable Drag Chain คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับจัดเก็บและป้องกันสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบเครื่องจักรที่มีการเคลื่อนที่ โดยมีลักษณะเด่นคือ “ช่องเว้นช่อง” หรือโครงสร้างแบบเปิดทั้งด้านบนและด้านล่าง ช่วยให้สามารถมองเห็นสายภายในได้ง่าย และระบายอากาศได้ดี ช่วยให้การติดตั้งสายไฟสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น เพราะสามารถเปิดฝารางแล้ววางสายได้โดยไม่ต้องร้อยเข้าไปจากปลายด้านใดด้านหนึ่ง จึงเหมาะสำหรับสายไฟที่มีหัวคอนเนคเตอร์หรือข้อต่อที่ไม่สามารถถอดออกได้ อีกทั้งยังช่วยลดเวลาในการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าในเครื่องจักร
ลักษณะของรางกระดูกงูแบบโปร่ง
ลักษณะของรางแบบโปร่งจะทำให้สามารถเข้าถึงสายไฟได้สะดวกในกรณีที่ต้องการบำรุงรักษา ตรวจสอบ หรือเปลี่ยนสายใหม่ เหมาะสำหรับงานที่ต้องเปลี่ยนสายบ่อย เช่น เครื่อง CNC, หุ่นยนต์แขนกล, ระบบอัตโนมัติ และงานที่ต้องการความสะดวกในการติดตั้ง โดยวัสดุที่ใช้มักทำจากพลาสติก PA6 ที่มีความแข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักเบา นอกจากนี้ ยังรองรับการโค้งงอได้ดีตามค่า Bend Radius ที่กำหนด ทำให้ใช้งานได้อย่างลื่นไหลโดยไม่ทำให้สายไฟเสียหาย เหมาะกับงานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงและดูแลรักษาง่าย
รายละเอียดสินค้าและราคา
สินค้าและบทความใกล้เคียง
Open Type Cable Drag Chain รุ่นโปร่ง
นอกจากคุณสมบัติที่ช่วยให้การติดตั้งและบำรุงรักษาง่ายแล้ว Cable drag chain แบบโปร่งยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง และการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง เช่น แขนกลที่หมุนหรือเลื่อนไปมาในหลายทิศทาง โดยค่า Bending Radius (R) ของรางก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา เพื่อให้สายไฟโค้งงอได้อย่างเหมาะสม โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย
ตารางการวัดขนาดและค่า Bending Radius
ข้อกำหนด | คำอธิบาย |
---|---|
การวัดความกว้างของราง | วัดความกว้างกระดูกงูให้พอดีกับสายไฟ โดยเว้นช่องว่างอย่างน้อย 10% จากความกว้างของสายไฟ |
การวัดความสูงของราง | เว้นช่องว่างภายในรางอย่างน้อย 10% จากเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟเพื่อให้สายสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ |
การคำนวณช่องว่าง 10% | คำนวณ 10% ของความกว้างหรือความสูงของสายไฟเพื่อป้องกันการเสียดสีและการบีบอัดสาย |
ค่า Bending Radius (R) | คำนวณค่า Bending Radius หรือรัศมีการดัดโค้ง โดยควรเว้นพื้นที่สำหรับการโค้งอย่างน้อย 15% ของเส้นผ่านศูนย์กลาง |
การเลือกขนาดของสายไฟ | เลือกขนาดสายไฟให้เหมาะสมกับความกว้างและความสูงของราง โดยคำนึงถึงประเภทและลักษณะการใช้งาน |
การรองรับการเคลื่อนไหว | เว้นช่องว่างเพียงพอเพื่อให้สายไฟเคลื่อนที่ได้โดยไม่มีการตึงหรือเสียดสี |
เข้าสายไฟหรือท่อเข้าออกได้โดยไม่ต้องถอดรางทั้งหมด
การออกแบบให้สามารถ “เปิดฝาครอบด้านบน” ได้ หรืออาจไม่มีฝาครอบเลย ทำให้สามารถนำสายไฟหรือท่อเข้าออกได้โดยไม่ต้องถอดรางทั้งหมด ช่วยลดเวลาในการติดตั้งและการซ่อมบำรุง เหมาะกับงานที่ต้องมีการเปลี่ยนสายบ่อยหรือขยับปรับตำแหน่งสายตามความต้องการ
ข้อดีของกระดูกงูแบบโปร่งเพิ่มเติม:
มีน้ำหนักเบากว่าแบบปิดทึบ จึงเหมาะกับระบบที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว
สามารถตรวจสอบสายไฟภายในได้ด้วยสายตา ลดความเสี่ยงในการซ่อนปัญหา รางกระดูกงู
ระบายอากาศได้ดี ลดความร้อนสะสมในสายไฟหรือท่อ
ความคล่องตัวสูง ติดตั้งง่าย ดูแลสะดวก
Cable drag chain ได้รับความนิยมในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความรวดเร็วในการติดตั้งและบำรุงรักษา ด้วยโครงสร้างที่เปิดด้านบนหรือมีช่องเว้น ทำให้สามารถใส่หรือถอดสายไฟได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องถอดชิ้นส่วนทั้งหมด ความโปร่งยังช่วยลดน้ำหนักของราง จึงรองรับการเคลื่อนไหวซ้ำๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหมาะกับงานที่ต้องเปลี่ยนสายหรือปรับระบบอยู่บ่อยครั้ง เช่น ระบบ CNC, หุ่นยนต์อุตสาหกรรม และสายการผลิตอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังช่วยให้ตรวจสอบสายไฟภายในได้ง่าย เพิ่มความปลอดภัยและประหยัดเวลาในการซ่อมบำรุง.
ข้อควรระวัง:
ควรเลือกขนาดที่พอดีกับจำนวนสายและเส้นผ่านศูนย์กลางของสาย เพื่อป้องกันสายไฟขยับหรือเสียดสีเกินความจำเป็น
วัสดุที่ใช้ในการผลิตรางกระดูกงูมีหลากหลายชนิด
วัสดุหลัก 3 ประเภท ได้แก่ พลาสติก (PA6), เหล็กกัลวาไนซ์, และสแตนเลส โดยแต่ละวัสดุมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน พลาสติกมีน้ำหนักเบาและทนทานต่อการเสียดสี เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป รางเหล็กกัลวาไนซ์เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง และรางสแตนเลสมีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อสารเคมีและความร้อน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความรุนแรงหรือสารเคมี
ข้อกำหนด | คำอธิบาย |
---|---|
ประเภทของกระดูกงู | – แบบโปร่ง (Open Type): เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่มีสารเคมีหรือฝุ่นสะสม ระบายอากาศดีและสามารถดูแลรักษาได้ง่าย |
– แบบปิดทึบ (Fully Enclosed): ป้องกันฝุ่นและสารเคมีจากภายนอก เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่ต้องการป้องกันการปนเปื้อนและความเสียหายจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรง | |
– แบบทึบบนโปร่งล่าง (Semi-Enclosed): เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการการระบายอากาศในระดับหนึ่ง เช่น พื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง และยังสามารถป้องกันฝุ่นจากด้านบนได้ | |
วัสดุที่ใช้ | – พลาสติก PA6: น้ำหนักเบา ทนทานต่อการเสียดสี เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นสารเคมีหรือฝุ่นละออง |
– เหล็กชุบกัลวาไนซ์สตีล : ทนทานต่อการกัดกร่อน เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานสูงและสามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือฝุ่น | |
– สแตนเลส (Stainless Steel): แข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อนและสารเคมีสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือความร้อนสูง | |
การปรับขนาดรางและเพลท | – เหล็กชุบกัลวาไนซ์สตีล: สามารถการออกแบบรางและ Plate ให้สามารถปรับขนาดได้หลากหลาย ทั้งความกว้าง ความสูง และความยาวของราง รองรับสายไฟและท่อหลากหลายขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
– สแตนเลส (Stainless Steel): สามารถออกแบบรางและ Plate ได้เหมือนรางเหล็ก |
การวัดขนาดรางกระดูกงูและค่า Bending Radius
การเลือกขนาดและการเว้นช่องว่างอย่างถูกต้องระหว่างสายไฟและกระดูกงูเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเว้นช่องว่างจะช่วยให้สายไฟสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ ไม่เกิดการเสียดสีหรือการบีบอัด ซึ่งจะลดการสึกหรอของสายไฟและยืดอายุการใช้งานได้ นอกจากนี้ การเลือกขนาดที่เหมาะสมยังช่วยให้การติดตั้งเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของสายไฟ เช่น การเกิดแรงตึงเครียดที่อาจทำให้สายไฟขาดหรือเสียหาย
การวัดความกว้างของราง (Chain Width Measurement): คือการตรวจสอบขนาดรางให้สามารถรองรับสายไฟหรือสายเคเบิลได้อย่างเหมาะสม ควรเว้นช่องว่างอย่างน้อย 10% ของขนาดสายไฟหรือสายเคเบิลเพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ลดความเสียดสีและความตึงเครียดในระหว่างการใช้งาน
การวัดความสูงของราง (Height Measurement): การวัดความสูงของรางจะช่วยให้สายไฟหรือสายเคเบิลไม่เกิดการบีบอัดและสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ ควรเว้นช่องว่างในแนวสูงอย่างน้อย 10% ของเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟ ☑ รางกระดูกงู
การคำนวณช่องว่าง 10% (10% Space Calculation): คำนวณพื้นที่ว่างในรางให้เหมาะสม โดยช่องว่างในแนวกว้างและแนวสูงควรมีอย่างน้อย 10% ของขนาดสายไฟหรือสายเคเบิล เพื่อป้องกันการเสียดสีและช่วยในการเคลื่อนไหวของสายไฟอย่างราบรื่น
Bending Radius (ค่า R): ค่า Bending Radius คือรัศมีของการดัดโค้ง เพื่อให้สายไฟเคลื่อนที่ได้โดยไม่เกิดความตึงเครียด การคำนวณค่า Bending Radius ควรคำนึงถึงความยาวของสายและชนิดของสายไฟ รวมถึงการเว้นพื้นที่ว่างในรางอย่างน้อย 15% ของเส้นผ่านศูนย์กลางของสายเคเบิลเพื่อให้สามารถโค้งงอได้อย่างปลอดภัย
ผลงานสินค้าและบริการของเรา
การบำรุงรักษารางกระดูกงู: วิธีดูแลให้ใช้งานได้ยาวนาน
นสิ่งสำคัญที่ช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพของระบบรางสายไฟให้อยู่ในสภาพดี โดยมีวิธีการบำรุงรักษาดังนี้:
ทำความสะอาดสม่ำเสมอ: การทำความสะอาดรางช่วยป้องกันการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้การเคลื่อนไหวของสายไฟถูกขัดขวาง ควรใช้แปรงหรือเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดภายในราง
ตรวจสอบความเสียหาย: ควรตรวจสอบสภาพกระดูกงูและสายไฟในรางอย่างสม่ำเสมอเพื่อหาอาการชำรุด เช่น การแตกหักหรือการสึกหรอของราง เพื่อให้สามารถซ่อมแซมหรือเปลี่ยนแปลงได้ทันเวลา
หลีกเลี่ยงการเกินพิกัด: ควรเลือกขนาดของรางให้เหมาะสมกับสายไฟที่จะติดตั้ง หากติดตั้งสายไฟมากเกินไป อาจทำให้เกิดการเสียดสีหรือรางเกิดความเสียหายได้
การหล่อลื่น: หากรางมีการเคลื่อนที่หรือขยับได้ ควรหล่อลื่นส่วนที่มีการเคลื่อนไหว เพื่อให้การเคลื่อนที่ของสายไฟเป็นไปอย่างราบรื่นและลดการสึกหรอ
ตรวจสอบการติดตั้ง: ตรวจสอบการติดตั้งให้ถูกต้องตามคำแนะนำ เช่น ความสูงและความกว้างของช่องในราง เพื่อป้องกันไม่ให้สายไฟขัดขวางการเคลื่อนที่
- การป้องกันสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม: หากกระดูกงูใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูง, ความชื้น หรือสารเคมี ควรเลือกวัสดุที่ทนทานและเหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงในการสึกหรอหรือเกิดความเสียหาย
สอบถามและปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าได้โดยตรง
บริการนำเข้าทางเครื่องบิน (Air Freight)
มีสต็อกพร้อมส่งในประเทศ รองรับการใช้งานได้ทันที
✅ จัดส่งได้ทันทีภายใน 1–2 วันทำการ
✅ ปริมณฑล และต่างจังหวัด 2-3 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการขนส่งเอกชน) **สามารถระบุได้
สั่งผลิตตามขนาดและความต้องการใช้งานได้
✅เลือกขนาดได้อิสระ: กำหนด ความกว้าง x ความสูง x ความลึก ตามพื้นที่ใช้งาน