cable gland ขนาด รุ่นสแตนเลส

Cable Gland ขนาด ให้พอดีกับสายไฟเป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยความแม่นยำ เพื่อให้ได้การติดตั้งที่ปลอดภัย ไม่รั่วซึม และยึดสายได้แน่นหนา วรรคต่อไปนี้คือหลักสำคัญในการเลือกอย่างถูกต้อง เลือก Clamping Range ที่ตรงกับสายไฟ นำขนาดสายไฟที่ได้มาเทียบกับช่วงการรัดสาย (Clamping Range) ของแต่ละรุ่น เช่น สายขนาด 10 มม. เหมาะกับ PG13.5 (6–11 มม.) หรือ M20 (6–12 มม.) และควรอยู่กลางช่วงเพื่อให้ซีลทำงานได้ดีที่สุด

สินค้าแนะนำและใกล้เคียง

การเลือก Cable Gland ขนาดสแตนเลส

ช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างใช้งาน เช่น สายไฟหลุดคลาย การรั่วซึมของน้ำ หรือความเสียหายจากแรงดึง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า อีกประเด็นที่ควรพิจารณาคือ ตำแหน่งการติดตั้ง หากเป็นจุดที่มีแรงสั่นสะเทือนสูง เช่น บนเครื่องจักรหรือในงานอุตสาหกรรมหนัก ควรใช้รุ่นที่มีโครงสร้างแข็งแรง พร้อมอุปกรณ์ล็อกสายแบบแน่นพิเศษ เพื่อป้องกันการหลุดเลื่อนของสายไฟ

รายละเอียดสินค้าและราคา

ฟังก์ชันและความปลอดภัย

นอกจากเรื่องของฟังก์ชันและความปลอดภัยแล้ว การเลือก ขนาดของ Cable Gland สแตนเลส ยังควรสอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น IEC, EN หรือ UL เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ที่เลือกสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในโครงการโรงงานหรือระบบที่ต้องผ่านการตรวจรับจากวิศวกรควบคุม

ขนาดยอดนิยมของเคเบิ้ลแกลนด์สแตนเลส

ขนาดเกลียวประเภทเกลียว (Thread Type)ช่วงขนาดสายเคเบิลที่รองรับ (mm)หมายเหตุ
NPT 1/2″NPTØ 6 – 12 mmขนาดเล็ก ใช้กับสายควบคุมทั่วไป
NPT 3/4″NPTØ 8 – 16 mmขนาดกลาง นิยมใช้ทั่วไป
NPT 1″NPTØ 12 – 20 mmขนาดยอดนิยม ติดตั้งง่าย
M20Metric (M-Thread)Ø 6 – 12 mmใช้แพร่หลายในงานอุตสาหกรรม
M25Metric (M-Thread)Ø 10 – 18 mmใช้กับสายไฟกลางถึงใหญ่
M32Metric (M-Thread)Ø 14 – 25 mmรองรับสายไฟขนาดใหญ่ขึ้น
PG13.5PGØ 6 – 12 mmใช้กับงานทั่วไป หรือตู้คอนโทรล
cable gland Clamping Range
5 ปัจจัยสำคัญราคา cable gland ขนาดรุ่นสแตนเลส

✅ 1. วัสดุที่ใช้ผลิต (Material) วัสดุมีผลโดยตรงกับราคา เช่น

  • สแตนเลส 304: ทนสนิมทั่วไป ราคาเข้าถึงได้

  • สแตนเลส 316: ทนการกัดกร่อนสูง เหมาะกับงานทะเล โรงงานเคมี ราคาสูงกว่า
    วัสดุคุณภาพสูงมีต้นทุนสูง แต่ก็คุ้มค่าหากใช้งานในสภาพแวดล้อมรุนแรง


✅ 2. ขนาดและประเภทเกลียว (Size & Thread Type) ขนาดเกลียวที่ใหญ่ขึ้น เช่น M32, M40 หรือ PG29 มักมีราคาสูงขึ้นตามวัสดุที่ใช้มากขึ้นนอกจากนี้ เกลียวพิเศษ เช่น NPT (เกลียวท่อ) หรือเกลียวแบบสั่งทำเฉพาะ จะมีต้นทุนสูงกว่าเกลียวมาตรฐาน


✅ 3. ระดับการป้องกัน IP (IP Rating) เคเบิ้ลแกลน ที่มี IP68 หรือ IP69K ต้องใช้ซีลและโครงสร้างพิเศษเพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นได้เต็มประสิทธิภาพ

cable gland ขนาดรุ่นสแตนเลส
วิธีเลือกประเภทเกลียวให้เหมาะสมกับอุปกรณ์

การเลือกประเภทเกลียวที่เหมาะสมสำหรับ เคเบิ้ลแกลนด์ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่:

  1. ประเภทงานที่ใช้งาน: เลือกเกลียวตามมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ใช้งาน เช่น ถ้าใช้งานในท่อหรือระบบที่ต้องการการซีลที่ดี เลือก NPT หากใช้งานทั่วไปหรือในอุตสาหกรรมทั่วไป เลือก M หรือ PG

  2. ขนาดสายไฟ: เลือกขนาดเกลียวให้เหมาะสมกับขนาดสายไฟที่ใช้งาน

  3. ความทนทานและความปลอดภัย: หากต้องการการป้องกันน้ำหรือฝุ่น เลือกเกลียวที่รองรับการซีลได้ดี เช่น เกลียว PG หรือ M ที่มาพร้อมซีลยางที่สามารถทนทานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

การป้องกันการกัดกร่อนด้วยเคเบิ้ลแกลนด์สแตนเลส

สำหรับการติดตั้งใน พื้นที่ชายฝั่งและทะเล เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากสภาพแวดล้อมในพื้นที่ดังกล่าวมีความชื้นสูง ไอเกลือจากทะเล และการกัดกร่อนที่เกิดจากสารเคมีหรือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย การเลือกคุณสมบัติป้องกันการกัดกร่อนและทนทานต่อปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น stainless ประโยชน์ของในพื้นที่ชายฝั่งและทะเล:

  • ทนทานต่อการกัดกร่อนจากเกลือและน้ำทะเล: สแตนเลสทนทานต่อการกัดกร่อนจากไอเค็มได้ดี ซึ่งเหมาะสมสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ชายฝั่งที่มีลมและน้ำทะเล

  • เหมาะสำหรับการติดตั้งในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง: การทนทานต่อความชื้นและการกัดกร่อนช่วยให้เหมาะสมในการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นตลอดเวลา

  • การป้องกันจากการระเบิดในพื้นที่เสี่ยง: สำหรับพื้นที่ที่อาจมีการระเบิด (Explosion-Proof Zones), สแตนเลสสามารถรองรับการติดตั้งตามมาตรฐาน ATEX หรือ IECEx เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

  • อายุการใช้งานที่ยาวนาน: ความทนทานของสแตนเลสช่วยให้การใช้งานในพื้นที่ชายฝั่งยาวนานขึ้น ไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อย

  • ต้านทานการสึกกร่อนและความเสียหายจากสภาพอากาศ: เหมาะสำหรับการติดตั้งในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น พายุฝนหรือสภาพอากาศที่มีลมแรง

การเลือกใช้สแตนเลสในพื้นที่ชายฝั่งและทะเลจึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยและอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้าในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

cable gland ขนาด Clamping Range

ขนาดเกลียว ความยาวเกลียว Clamping Range และวัสดุซีล ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกขนาดที่แม่นยำและเหมาะสมกับสายไฟได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ หากต้องใช้งานในสภาพแวดล้อมเฉพาะ เช่น พื้นที่อุณหภูมิสูง, ใกล้ทะเล, หรือโรงงานที่มีไอน้ำเค็ม ควรเลือกวัสดุสแตนเลส 316 แทน 304 เนื่องจาก 316 มีความต้านทานการกัดกร่อนได้ดีกว่า โดยเฉพาะในบริเวณที่มีคลอไรด์หรือสารเคมีในอากาศ ในการออกแบบระบบหรือซ่อมบำรุง ควรเตรียมสต็อกเคเบิ้ลแกลนด์หลายขนาดที่รองรับสายไฟหลัก ๆ ที่ใช้ในโครงการ เช่น M20, PG13.5, PG16 หรือ M25 ซึ่งเป็นขนาดยอดนิยมและใช้บ่อยที่สุด

การเลือก Cable Gland ขนาด

✅ 1. วัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟ ก่อนเลือก เคเบิ้ลแกลน ต้องรู้ขนาด “Outer Diameter” ของสายไฟ (ไม่ใช่แค่ขนาดหน้าตัด เช่น 2.5 mm²) โดยวัดจากฉนวนด้านนอกสุด ซึ่งจะนำไปใช้เทียบกับ Clamping Range 


✅ 2. เลือก Clamping Range ให้เหมาะสม ขนาดสายควรอยู่ในช่วงกลางของ Clamping Range เช่น สายขนาด 10 มม. ควรใช้รุ่น PG13.5 (6–11 มม.) หรือ M20 (6–12 มม.) หลีกเลี่ยงการเลือกที่อยู่ปลายสุดของช่วง เพราะอาจรัดแน่นเกินหรือน้อยเกินไปจนหลุดง่าย


✅ 3. ตรวจสอบประเภทเกลียวที่ใช้กับอุปกรณ์ ระบบที่ใช้ควรระบุว่าเป็นเกลียวแบบ PG, Metric (M), หรือ NPT เลือกให้ตรงกับกล่องหรือแผงควบคุม เพื่อให้เกลียวขันแน่น ไม่รั่ว และติดตั้งง่าย


✅ 4. คำนึงถึงระดับการป้องกัน (IP Rating) หากต้องติดตั้งในพื้นที่มีฝุ่น น้ำ หรือสภาวะแวดล้อมรุนแรง ควรเลือกที่มี IP66, IP67 หรือ IP68 และติดตั้งให้ซีลแน่นโดยใช้แรงขันตามคำแนะนำของผู้ผลิต


✅ 5. เลือกวัสดุให้เหมาะกับหน้างาน สำหรับงานทั่วไป Stainless Steel 304 เพียงพอ แต่ถ้าใช้งานใกล้ทะเลหรือในสภาพแวดล้อมกัดกร่อน แนะนำให้ใช้ Stainless Steel 316 เพื่อความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ผลงานสินค้าและบริการของเรา

โลหะ cable gland
สแตนเลส cable gland
ทองเหลือง cable gland
สินค้าเคเบิ้ลแกลนด์
cable gland ขนาด รุ่นสแตนเลสวัสดุที่ใช้ผลิต

บทบาทสำคัญในการกำหนดประสิทธิภาพ ความทนทาน และการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน การเลือกวัสดุที่เหมาะสมสามารถช่วยให้การติดตั้งมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นี่คือวัสดุหลักที่ใช้ในการผลิต

  • 1. สแตนเลส (Stainless Steel)

    • คุณสมบัติ:

      • ทนทานต่อการกัดกร่อน: สแตนเลสเป็นวัสดุที่ทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี น้ำทะเล และสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงได้ดี

      • ความแข็งแรงสูง: สามารถรับแรงกดทับและแรงดึงได้ดี เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานสูง

      • ทนต่ออุณหภูมิสูง: เหมาะสำหรับงานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงหรือการใช้งานในงานที่ต้องทนต่อความร้อน

    • การใช้งาน:

      • งานในสภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อนสูง เช่น พื้นที่ชายฝั่ง, ท่าเรือ, อุตสาหกรรมเคมี, หรือระบบที่ใช้ในน้ำทะเล

      • ประเภท: สแตนเลส 304 และ 316

        • 304: ทนต่อการกัดกร่อนในระดับปานกลาง

        •  

FAQ คำถามที่พบบ่อย

สอบถามและปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าได้โดยตรง

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สินค้าและบริการ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดสินค้าเชิงเทคนิค การเลือกขนาดที่เหมาะสม หรือคำแนะนำในการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทีมงานของเรายินดีให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ เราพร้อมช่วยคุณ สามารถติดต่อเราผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์, อีเมล, หรือแชทออนไลน์ ทีมงานยินดีตอบทุกคำถาม เพื่อให้คุณมั่นใจในสินค้าที่เลือกใช้สินค้าและบริการ ติดต่อเรา ☑

บริการนำเข้าทางเครื่องบิน (Air Freight)

หากลูกค้ามีความต้องการใช้ สินค้าที่ผลิตจากต่างประเทศหรือสินค้าอื่น ๆ แบบเร่งด่วน ทางเรามีบริการจัดหาและนำเข้าสินค้าด้วยวิธีการขนส่งทางอากาศ (Air Freight) เพื่อให้สามารถจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วและตรงตามกำหนดเวลาการใช้งานของคุณ ระยะเวลาการจัดส่งรวดเร็ว: โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 3–7 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับประเทศต้นทางและสายการบินที่ให้บริการ) ติดต่อเรา ☑

มีสต็อกพร้อมส่งในประเทศ รองรับการใช้งานได้ทันที

เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เราได้ จัดเก็บสต็อกสินค้าเคเบิ้ลแกลนและอุปกรณ์อื่น ๆ ไว้ภายในประเทศ เป็นจำนวนมากและครอบคลุมหลายขนาด เพื่อให้สามารถจัดส่งได้อย่างรวดเร็วและรองรับทุกความต้องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่
✅ จัดส่งได้ทันทีภายใน 1–2 วันทำการ
✅ ปริมณฑล และต่างจังหวัด 2-3 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการขนส่งเอกชน) **สามารถระบุได้

สั่งผลิตตามขนาดและความต้องการใช้งานได้

เรามีบริการ ออกแบบและสั่งผลิตตู้ไฟฟ้าสแตนเลส (Stainless Steel Electrical Enclosure) ตามขนาดและรูปแบบที่ลูกค้าต้องการ เพื่อให้ตรงกับหน้างานจริงและเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานเฉพาะด้านของแต่ละอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นงานในพื้นที่กลางแจ้ง, พื้นที่เปียกชื้น, โรงงานอาหาร, เคมีภัณฑ์ หรืออุตสาหกรรมหนัก
✅เลือกขนาดได้อิสระ: กำหนด ความกว้าง x ความสูง x ความลึก ตามพื้นที่ใช้งาน