SRK.CO.TH | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่ออุตสาหกรรมมาตรฐานสากล

เคเบิลแกลนโลหะเกลียวยาว
Extra Long Cable gland

เคเบิลแกลนโลหะเกลียวยาว หรือ Extra Long Cable Gland เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อติดตั้งและยึดสายไฟที่มีความยาวเกลียวพิเศษ เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการการป้องกันที่มั่นคงและทนทานในพื้นที่ที่ต้องรองรับแรงดันสูง หรือในจุดติดตั้งที่ต้องการระยะเกลียวยาวกว่ามาตรฐานทั่วไป สั่งผลิตรุ่น Extra Long ได้ตามความต้องการ ทั้งในวัสดุทองเหลืองชุบนิกเกิ้ลและสแตนเลส 304

"หมวด เคเบิลแกลนโลหะเกลียวยาว"

เคเบิลแกลนโลหะเกลียวยาว (Extra Long Cable Gland) คืออะไร?

Extra Long Cable Gland เป็นอุปกรณ์สำหรับการติดตั้งและยึดสายไฟที่ออกแบบมาพร้อมเกลียวที่ยาวเป็นพิเศษ เพื่อตอบสนองงานที่ต้องการการยึดเกาะที่แน่นหนาและรองรับความลึกของวัสดุที่เกลียวต้องทะลุผ่าน เช่น แผ่นโลหะหนา ตู้ควบคุมไฟฟ้าขนาดใหญ่ หรือพื้นที่ที่ต้องการการป้องกันการรั่วซึมอย่างสูง

วัสดุขอ Extra Long ทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล (Nickel-Plated Brass) คุณสมบัติ: ทนต่อการกัดกร่อน: ทองเหลืองชุบนิกเกิ้ลมีคุณสมบัติป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อนได้ดี โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมทั่วไป เช่น งานติดตั้งภายในโรงงานอุตสาหกรรม หรือในอาคารที่ไม่ต้องสัมผัสกับความชื้นสูง

วัสดุขอ Extra Long สแตนเลส 304 (Stainless Steel 304) คุณสมบัติ: ทนต่อการกัดกร่อนสูง: สแตนเลส 304 มีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำ ความชื้น และสารเคมีบางชนิด ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดสนิม เช่น ในพื้นที่เปียกหรือใกล้แหล่งน้ำ

สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

การออกแบบมาเคเบิลแกลนพร้อมเกลียวยาวเป็นพิเศษ​

อุปกรณ์ที่พัฒนามาเพื่อตอบสนองความต้องการในงานติดตั้งระบบไฟฟ้าที่มีความซับซ้อนและหลากหลาย โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการยึดติดกับโครงสร้างหรือแผงควบคุมที่มีความหนาเป็นพิเศษ เกลียวที่ยาวช่วยเพิ่มพื้นที่ยึดเกาะและความมั่นคงในการติดตั้ง พร้อมป้องกันการรั่วซึมของน้ำ ฝุ่น หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์เชื่อมต่อสายไฟที่ออกแบบมาพร้อมเกลียวยาวเป็นพิเศษ เพื่อตอบสนองการติดตั้งในโครงสร้างหรือแผงควบคุมที่มีความหนามากกว่าปกติ การออกแบบนี้ช่วยให้สามารถติดตั้งได้อย่างแน่นหนาและปลอดภัย โดยวัสดุที่ใช้ผลิตมักเป็นโลหะคุณภาพสูง เช่น ทองเหลืองชุบนิกเกิลและสแตนเลส 304 ทำให้ทนทานต่อการกัดกร่อนและการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

การเปรียบเทียบระหว่างเกลียวปกติ (Standard Thread)

การติดตั้งเคเบิลแกลนโลหะเกลียวยาว

เหตุผลที่ต้องออกแบบเคเบิ้ลแกลนพร้อมเกลียวที่ยาวเป็นพิเศษ

เพิ่มความยืดหยุ่นในการติดตั้ง เกลียวที่ยาวช่วยให้ Cable gland สามารถยึดติดกับผนังหรือแผงควบคุมที่มีความหนาแตกต่างกันได้ ไม่ว่าจะเป็นตู้ไฟฟ้าขนาดใหญ่หรือโครงสร้างที่มีผนังสองชั้น การออกแบบนี้ช่วยลดความยุ่งยากและเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง เกลียวยาวช่วยเพิ่มความแน่นหนาและมั่นคงในการติดตั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการสั่นสะเทือน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมหนัก หรือเครื่องจักรขนาดใหญ่ ช่วยลดความเสี่ยงที่จะหลุดออก
รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เกลียวที่ยาวช่วยให้การติดตั้งสามารถปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น การเชื่อมต่อผ่านผนังที่มีการหุ้มฉนวนหนา หรือในพื้นที่ที่ต้องใช้ซีลหลายชั้นเพื่อป้องกันน้ำ ฝุ่น หรือสารเคมี

เพิ่มความแน่นหนาของซีลและการป้องกัน ด้วยเกลียวที่ยาวเป็นพิเศษ สามารถจับยึดสายไฟได้แน่นหนามากขึ้น ช่วยลดการเคลื่อนที่ของสายไฟและป้องกันการรั่วซึมของน้ำหรือฝุ่นเข้าสู่อุปกรณ์ไฟฟ้า
รองรับการใช้งานเฉพาะทาง เกลียวที่ยาวตอบโจทย์การติดตั้งในระบบไฟฟ้าที่ซับซ้อน เช่น ตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าแรงสูง อุปกรณ์ในโรงงานเคมี หรือพื้นที่ที่ต้องการมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวด เช่น พื้นที่กันระเบิด

ความทนทานต่อแรงกระแทกและแรงดึง เกลียวที่ยาวช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับการยึดเกาะ ทำให้มีความแข็งแรงมากขึ้น สามารถทนต่อแรงดึงและแรงกระแทกที่เกิดจากสายไฟหรือสภาพแวดล้อมได้ดี ช่วยให้การใช้งานมีความปลอดภัยและยาวนาน การออกแบบเกลียวให้ยาวเป็นพิเศษจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การปรับแต่งเพื่อความสวยงาม แต่ยังเป็นการเพิ่มฟังก์ชันและประสิทธิภาพในการใช้งานให้เหมาะสมกับงานที่หลากหลายและท้าทาย.

การออกแบบ Body Extra Long

การออกแบบตัวเรือน (Body Extra Long Cable Gland)
โครงสร้างหลักที่มั่นคง:
ตัวเรือน (Body) ของเคเบิ้ลรัดสายไฟถือเป็นส่วนประกอบหลักที่ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างหลักในการเชื่อมโยงส่วนต่างๆ ของแกลนให้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ตัวเรือนนี้ช่วยให้การติดตั้งมีความแข็งแรงและสามารถรองรับแรงดึงหรือแรงกดที่เกิดขึ้นระหว่างการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วัสดุที่ใช้ผลิต: ตัวเรือนมักผลิตจากวัสดุโลหะที่มีความทนทาน เช่น ทองเหลืองชุบนิกเกิล หรือ สแตนเลส 304 เพื่อให้ทนต่อการกัดกร่อนและการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้นหรือมีการสัมผัสกับสารเคมี
การป้องกันการกัดกร่อน: ตัวเรือนที่ผลิตจากสแตนเลสหรือทองเหลืองชุบนิกเกิลมีคุณสมบัติทนทานต่อสนิมและการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่มีสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น โรงงานเคมี หรือพื้นที่ที่ใกล้ทะเล
รองรับแรงดันและการสั่นสะเทือน: ตัวเรือนที่ออกแบบมาอย่างดีช่วยให้สามารถรองรับแรงดันจากภายนอกได้ เช่น ในกรณีที่สายไฟถูกดึงหรือดัน รวมถึงลดผลกระทบจากการสั่นสะเทือนที่อาจทำให้อุปกรณ์คลายตัว

 

การออกแบบตามมาตรฐาน: ตัวเรือนมักได้รับการออกแบบให้ตรงตามมาตรฐานสากล เช่น IP68 เพื่อให้มีคุณสมบัติกันน้ำและกันฝุ่นในระดับสูง ทำให้อุปกรณ์สามารถใช้งานในพื้นที่เปียกชื้นหรือที่มีฝุ่นมากได้อย่างปลอดภัย
รองรับการใช้งานหลากหลาย: ตัวเรือนถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้กับเกลียวหลายประเภท เช่น PG, Metric, หรือ NPT เพื่อรองรับการติดตั้งในระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่หลากหลาย

การเปรียบเทียบระหว่างเกลียวปกติ (Standard Thread)

การเปรียบเทียบระหว่างเกลียวปกติ (Standard Thread)

1. ความยาวของเกลียว
เกลียวปกติ: เกลียวที่มีความยาวพอดีกับขนาดของอุปกรณ์หรือส่วนประกอบที่ใช้ในการติดตั้ง โดยจะยึดติดกับชิ้นส่วนที่ต้องการอย่างแน่นหนา แต่ไม่ยาวเกินไป
เกลียวยาว (Extra Long Thread): เกลียวที่มีความยาวเกินมาตรฐาน ซึ่งช่วยให้การติดตั้งสามารถยึดติดกับพื้นผิวหรืออุปกรณ์ที่หนาหรือมีการออกแบบที่ลึกกว่าเกลียวปกติ เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่ต้องการการยึดเกาะที่ลึกและแข็งแรงยิ่งขึ้น

2. การใช้งานและการติดตั้ง
เกลียวปกติ: เหมาะสำหรับการใช้งานในอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีขนาดมาตรฐาน และสามารถยึดติดได้พอเหมาะในส่วนที่มีความหนาไม่มาก เช่น ตู้ไฟฟ้าขนาดปกติ หรือการติดตั้งในพื้นที่ที่การยึดเกาะไม่ต้องลึกมาก
เกลียวยาว (Extra Long Thread): การใช้งานในอุปกรณ์หรือสถานที่ที่ต้องการการยึดเกาะในระยะที่ลึกหรือพื้นที่ที่มีขนาดหนามาก เช่น การติดตั้งในตู้หรือบ็อกซ์ที่มีความหนาของผนังสูง การใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานสูง หรือการป้องกันการคลายตัวในสภาพแวดล้อมที่มีแรงสั่นสะเทือนมาก

ความแข็งแรงและการรองรับแรง
เกลียวปกติ: มักจะรองรับแรงดึงและแรงกดได้ในระดับที่เหมาะสมกับงานทั่วๆ ไป แต่ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีแรงดึงหรือแรงกดสูงในระยะยาว
เกลียวยาว (Extra Long Thread): ความยาวของเกลียวเพิ่มขึ้นช่วยให้สามารถรองรับแรงดึงและแรงกดที่สูงขึ้นได้ดีกว่า โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการการยึดเกาะที่ลึกหรือรองรับน้ำหนักได้มากกว่า

ความยืดหยุ่นในการติดตั้ง
เกลียวปกติ: ความยืดหยุ่นในการติดตั้งจะจำกัดตามความลึกของเกลียวและการยึดเกาะระหว่างชิ้นส่วน ซึ่งเหมาะกับการติดตั้งที่ไม่ต้องการความยาวเกลียวมาก
เกลียวยาว (Extra Long Thread): ความยืดหยุ่นในการติดตั้งเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากสามารถติดตั้งได้ในพื้นที่ที่มีขนาดหลากหลาย และสามารถยึดได้แน่นในกรณีที่มีการออกแบบที่หนาหรือพิเศษ

การเลือกใช้งานระหว่าง Standard Thread (เกลียวปกติ) และ Extra Long Thread (เกลียวยาว)

ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและความต้องการของโครงการ โดยทั้งสองประเภทมีข้อดีและข้อจำกัดที่เหมาะสมกับสภาวะแวดล้อมและความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนี้:

การใช้งานทั่วไปกับเกลียวปกติ (Standard Thread)
เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไม่ต้องการความยาวพิเศษ: เกลียวปกติจะมีความยาวที่เพียงพอในการติดตั้งในอุปกรณ์ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ที่มีความหนาของผนังไม่มากหรือไม่จำเป็นต้องยึดเกาะลึก
การติดตั้งง่ายและเร็ว: เนื่องจากเกลียวปกติมีขนาดมาตรฐานและสามารถหาซื้อได้ง่าย ทำให้การติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือส่วนประกอบต่างๆ สามารถทำได้ทันที
ไม่ต้องรอสินค้านาน: การเลือกเกลียวแบบปกติจะทำให้คุณไม่ต้องรอสินค้าหรือการผลิตนาน เพราะสินค้าส่วนใหญ่จะมีในสต็อกและพร้อมส่ง

การเลือกเกลียวยาว (Extra Long Thread)
เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความหนาของวัสดุมาก: เกลียวยาวเหมาะสำหรับงานที่ต้องการการยึดติดในพื้นที่ที่มีความหนามาก เช่น ตู้ไฟฟ้าที่มีผนังหนาหรือการใช้งานในอุตสาหกรรมที่ต้องการการยึดเกาะที่ลึกเพื่อรองรับน้ำหนักหรือแรงดึงที่สูง
การติดตั้งที่ต้องการการยึดเกาะลึก: หากอุปกรณ์ที่ติดตั้งมีการออกแบบที่หนาและลึก หรือในกรณีที่มีการใช้งานที่มีความเสี่ยงในการคลายตัวของน็อต การเลือกเกลียวยาวจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคงในการยึดติด
ต้องสั่งผลิตและใช้เวลารอสินค้า: เนื่องจากเกลียวยาวต้องการการผลิตที่เฉพาะเจาะจงตามขนาดที่ต้องการ การสั่งผลิตเกลียวยาวอาจใช้เวลานานในการผลิตและจัดส่ง ดังนั้นต้องคำนึงถึงระยะเวลาในการเตรียมงาน

การเลือกใช้ระหว่าง Standard Thread และ Extra Long Thread ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน, ความหนาของวัสดุที่ต้องการยึด, และระยะเวลาในการดำเนินงาน หากต้องการติดตั้งทันทีและไม่ต้องการการยึดเกาะที่ลึกมาก การเลือก Standard Thread จะเหมาะสมที่สุด

การติดตั้งเคเบิลแกลนโลหะเกลียวยาว

ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบประเภทเกลียวที่ใช้งาน ก่อนเริ่มการติดตั้ง ต้องตรวจสอบว่าเกลียวที่ใช้ตรงกับประเภทที่ติดตั้งในอุปกรณ์หรือรูที่ต้องการ เช่น PG, M หรือ NPT โดยต้องยืนยันขนาดเกลียวที่ใช้งาน เช่น PG13.5, PG16, M32, M40 หรือ NPT3/4″ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้การติดตั้งแน่นหนาและเหมาะสมกับขนาดที่ต้องการเพื่อให้การเชื่อมต่อปลอดภัยและไม่มีปัญหาตามมาในภายหลัง

ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบขนาดรูติดตั้ง การวัดขนาดรูติดตั้งเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ใช้เครื่องมือวัดที่เหมาะสม เช่น เวอร์เนียร์หรือไมโครมิเตอร์ เพื่อวัดขนาดรูที่ต้องการติดตั้ง การตรวจสอบขนาดรูให้ตรงกับขนาดเกลียวที่เลือก จะช่วยให้การติดตั้งทำได้อย่างถูกต้อง ถ้ารูมีขนาดเล็กเกินไปอาจจะต้องเจาะใหม่ หรือถ้ารูใหญ่เกินไปอาจต้องติดตั้งอะแดปเตอร์เกลียวที่เหมาะสม

ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบสายเคเบิ้ลให้เหมาะสม ตรวจสอบสายเคเบิ้ลที่จะใช้งานด้วยการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายและเปรียบเทียบกับ Cable Range ของรุ่นที่ใช้งาน หากสายเคเบิ้ลมีขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาในการซีลที่ไม่แน่นหนา หรือติดตั้งได้ยาก ซึ่งอาจนำไปสู่การรั่วไหลของน้ำหรือฝุ่นละออง

ขั้นตอนที่ 4: ติดตั้งเคเบิ้ลและขันเกลียวให้แน่น เมื่อเลือกขนาดที่เหมาะสมและตรวจสอบสายเคเบิ้ลเสร็จแล้ว ให้นำสายเคเบิ้ลผ่านตัว Cable gland จากนั้นจัดตำแหน่งให้สายเคเบิ้ลอยู่ในที่ที่เหมาะสมและขันเกลียวให้แน่น การขันเกลียวควรทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ซีลยางถูกทำลาย การขันให้แน่นพอดีจะช่วยให้การซีลทำงานเต็มประสิทธิภาพ ป้องกันการรั่วซึมและแรงดึงที่เกินความจำเป็น

เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดและป้องกันสายไฟเมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยมีการออกแบบเกลียวที่ยาวเป็นพิเศษ เพื่อรองรับการติดตั้งในพื้นที่ที่มีความหนามากหรือต้องการการยึดเกาะที่ลึกและมั่นคง เช่น ตู้ไฟฟ้าที่มีผนังหนา หรือในอุตสาหกรรมที่ต้องการการยึดที่แข็งแรงและสามารถรองรับแรงดึงได้สูง มักทำจากวัสดุโลหะคุณภาพสูง เช่น ทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล หรือสแตนเลส 304 ซึ่งมีความทนทานต่อการกัดกร่อนและการสึกหรอ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือพื้นที่ที่ต้องการการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ เช่น ในอุตสาหกรรมเคมี, พลังงาน หรือการผลิต