ตู้สแตนเลสเก็บของ คอนโทรลไฟฟ้า
ตู้สแตนเลสเก็บของคอนโทรลไฟฟ้า คือ ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ซึ่งใช้สำหรับเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบควบคุมต่างๆ ภายในโรงงานหรือสถานที่ที่ต้องการการป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากความชื้น ฝุ่น หรือสภาวะภายนอกที่อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ ตู้ประเภทนี้มักใช้สำหรับเก็บอุปกรณ์คอนโทรลไฟฟ้า เช่น สวิตช์เบรกเกอร์, คอนโทรลเลอร์, หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ที่ต้องการการป้องกันที่มีมาตรฐานสูง โดยส่วนใหญ่จะมีการป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP55 ปลอดภัยจากการสัมผัสสิ่งสกปรกและน้ำจากภายนอก
ประเภทของตู้สแตนเลสเก็บของ
การเลือกขนาดและประเภทของประตู (บานเดี่ยวหรือบานคู่) ก็สำคัญ เพราะจะต้องสอดคล้องกับประเภทอุปกรณ์ที่เก็บอยู่ภายใน รวมถึงความสะดวกในการเปิดและปิดเพื่อตรวจสอบหรือบำรุงรักษา ตัวตู้สามารถติดตั้งระบบระบายอากาศหรือช่องระบายความร้อน เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ภายในจะไม่ร้อนเกินไปและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
รายละเอียดสินค้าและราคา
สินค้าและบทความใกล้เคียง
ตู้สแตนเลสเก็บของฝาทึบและฝาใส
เป็นตู้ไฟฟ้าหรือควบคุมอุปกรณ์ที่ออกแบบให้สามารถมองเห็นภายในได้โดยไม่ต้องเปิดฝา ช่วยให้ตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ได้ง่ายและปลอดภัย ฝาหน้าใสมักใช้กระจกนิรภัยหรืออะคริลิกตามลักษณะการใช้งาน โดยกระจกให้ความแข็งแรง ทนรอยขีดข่วน ส่วนอะคริลิกมีน้ำหนักเบา ทนแรงกระแทก ตู้ประเภทนี้นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ระบบควบคุมอัตโนมัติ หรือพื้นที่ที่ต้องการตรวจสอบอุปกรณ์เป็นประจำ ทั้งยังสามารถเลือกติดตั้งแบบตั้งพื้น พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP55 เพื่อรองรับการใช้งานทั้งในอาคารและกลางแจ้ง
ตารางเปรียบเทียบเกรดสแตนเลส 304 และ 316
| คุณสมบัติ | สแตนเลส 304 | สแตนเลส 316 |
|---|---|---|
| ความทนทานต่อการกัดกร่อน | ดี | ดีเยี่ยม |
| ความเหมาะสมในการใช้งานทั่วไป | ใช้งานได้ดีในพื้นที่แห้งหรือภายในอาคาร | เหมาะกับพื้นที่ที่มีความชื้น, ความเค็ม, หรือสารเคมีสูง |
| การใช้งานในพื้นที่ใกล้ทะเล | ไม่แนะนำ | เหมาะสมมาก |
| การใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมหนัก | พอใช้ | แนะนำ โดยเฉพาะในโรงงานเคมีหรืออาหาร |
| ราคา | ประหยัดกว่า | ราคาสูงกว่าเล็กน้อย แต่คุ้มค่ากับการใช้งานเฉพาะทาง |
สรุป:
หากคุณต้องการความทนทานทั่วไปและอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เสี่ยงต่อสนิมหรือสารเคมีมากนัก สแตนเลสเกรด 304 ก็เพียงพอ แต่หากเป็นการใช้งานในพื้นที่ใกล้ทะเล, พื้นที่เปียกชื้น, หรือโรงงานที่มีการใช้สารเคมี ควรเลือก เกรด 316 เพื่อป้องกันการกัดกร่อนและยืดอายุการใช้งานของตู้ไฟฟ้า
การเลือกใช้วัสดุสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316
สามารถ เลือกใช้วัสดุสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 ตามระดับความทนทานที่ต้องการ โดยเกรด 316 จะเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความชื้นหรือสารเคมีสูง เช่น พื้นที่ใกล้ทะเลหรือโรงงานผลิตสารเคมี ซึ่งต้องการความทนทานต่อการกัดกร่อนมากกว่า ตู้สแตนเลส
ความทนทานในระยะยาว แม้สแตนเลส 304 จะมีความทนทานที่ดีต่อการใช้งานในพื้นที่ทั่วไป แต่หากเลือกใช้งานผิดประเภท เช่น นำไปติดตั้งกลางแจ้งในพื้นที่ชายทะเล อาจเกิดสนิมผิวได้ในระยะยาว ซึ่งจะทำให้ต้องเสียค่าบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนตู้เร็วกว่าที่ควร
ความปลอดภัยของอุปกรณ์ภายใน หากเลือกวัสดุไม่เหมาะสมจนเกิดการกัดกร่อนบริเวณบานพับ ประตู หรือซีลกันน้ำ อาจทำให้ความสามารถในการกันน้ำ (เช่น IP55, IP66) ลดลง ส่งผลต่อความปลอดภัยของอุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน
จุดเด่นของตู้สแตนเลสเก็บของฝาหน้าใส (กระจกหรืออะคริลิก)
ตรวจสอบง่าย – ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบสถานะการทำงานของอุปกรณ์ภายในได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเปิดฝาตู้ ลดความเสี่ยงและเพิ่มความสะดวก
ปลอดภัย – แม้มองเห็นภายใน แต่ยังคงรักษาความปลอดภัยได้เต็มที่ เพราะมีชั้นกระจกหรืออะคริลิกปิดป้องกัน
สวยงามและเป็นระเบียบ – เหมาะสำหรับงานติดตั้งที่ต้องการความเรียบร้อย หรือมีผู้คนสัญจรผ่าน เช่น อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า
เลือกวัสดุได้ – ฝาใสสามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบกระจกนิรภัย หรืออะคริลิก ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกัน (เช่น ทนแรงกระแทก หรือทนรอยขีดข่วน)
รองรับการใช้งานทั้งภายในและกลางแจ้ง – หากใช้วัสดุที่มีคุณภาพและการซีลกันน้ำที่ได้มาตรฐาน IP55 หรือ IP66 ก็สามารถใช้งานในพื้นที่กลางแจ้งได้เช่นกัน
การสั่งผลิตตู้สแตนเลสกันน้ำ
การสั่งผลิตตู้กันน้ำต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ประเภทของตู้ (แขวนผนัง, ตั้งพื้น, มีหลังคา) ขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน, ประเภทประตู (บานเดี่ยวหรือบานคู่), มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP Rating) ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น IP55, IP65 หรือ IP66 และวัสดุที่ใช้ (สแตนเลส 304 หรือ 316) ซึ่งขึ้นอยู่กับความทนทานต่อการกัดกร่อนและสารเคมีต่างๆ การเลือกตู้ไฟฟ้าที่ตรงกับความต้องการจะช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น.
| ข้อกำหนด | คำอธิบาย |
|---|---|
| 1. ประเภทของตู้ | – ตู้แขวนผนัง (Wall-Mounted): ติดตั้งบนผนัง ประหยัดพื้นที่ เหมาะกับอุปกรณ์ขนาดเล็กหรือในพื้นที่จำกัด – ตู้ตั้งพื้น (Floor-Standing): รองรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับโรงงานหรือสถานีไฟฟ้า – ตู้มีหลังคา (With Roof): เหมาะสำหรับการติดตั้งกลางแจ้ง ป้องกันน้ำฝนและแสงแดดได้ดี |
| 2. ขนาดของตู้ และฟังค์ชั่นเพิ่มเติม | ขนาดต้องพิจารณาจากอุปกรณ์ที่จะติดตั้ง เช่น ขนาดของแผงควบคุมไฟฟ้า, เครื่องมือ หรือวงจรไฟฟ้า รวมถึงพื้นที่ที่ใช้ติดตั้ง |
| 3. ประเภทประตู | – บานเดี่ยว (Single Door): เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กและใช้งานง่าย – บานคู่ (Double Door): เหมาะกับตู้ขนาดใหญ่ที่ต้องการเปิดกว้างเพื่อเข้าถึงอุปกรณ์ |
| 4. มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP Rating) | – IP55: กันฝุ่นบางส่วนและน้ำที่มีแรงดันปานกลาง – IP66: ป้องกันฝุ่น 100% และกันน้ำแรงดันสูง |
| 5. วัสดุที่ใช้ | – สแตนเลส 304: เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ทนทานต่อการกัดกร่อน |
ตู้สแตนเลสเก็บของมีแผ่น Mounting Plate
ตู้มีแผ่น Mounting Plate (เพลตติดตั้งอุปกรณ์) ภายใน ได้รับการออกแบบเพื่อรองรับการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างมีระบบและเป็นระเบียบ ด้วยการออกแบบที่สามารถถอดแผ่น Mounting Plate ได้ง่าย ทำให้สามารถเข้าถึงภายในตู้อย่างสะดวกในการติดตั้งซ่อมแซม หรือการตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ช่วยให้การบำรุงรักษาทำได้รวดเร็วและปลอดภัย ช่วยให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างมีระเบียบ รวมถึงมีช่องสำหรับยึดรางสำหรับเดินสายไฟหรือรางสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น ตัวตัดวงจร เบรกเกอร์ หรือรีเลย์ ต่างๆ ทำให้การจัดการระบบไฟฟ้าในตู้มีความเรียบร้อยและลดปัญหาการลัดวงจรหรือการติดขัดของการเดินสายไฟ
✅ Mounting Plate ถอดได้ง่าย เพื่อความสะดวกในการติดตั้งหรือเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ภายใน ลดเวลาในการทำงานหน้างาน ☑ ตู้สแตนเลส
✅ รองรับการเดินสายไฟอย่างเป็นระเบียบ ด้วยพื้นที่เพียงพอสำหรับรางวางสายไฟ (DIN rail, wire duct) และการจัดวางอุปกรณ์ควบคุมต่าง ๆ
✅ ปลอดภัยและง่ายต่อการซ่อมบำรุง การจัดระเบียบสายไฟภายใน ช่วยลดความเสี่ยงจากความร้อนหรือการลัดวงจร และช่วยให้การตรวจสอบและซ่อมแซมทำได้รวดเร็วขึ้น
✅ เหมาะสำหรับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งระบบควบคุมเครื่องจักร ตู้ควบคุมไฟฟ้าแรงต่ำ หรือระบบอัตโนมัติ
ดังนั้น ตู้สแตนเลสคอนโทรลไฟฟ้าที่มี Mounting Plate ไม่เพียงแต่ทำให้การติดตั้งและการซ่อมแซมทำได้ง่าย แต่ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการจัดการระบบไฟฟ้าและการป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลงานสินค้าและบริการของเรา
การติดตั้ง Grounding สำหรับความปลอดภัย
เป็นสิ่งสำคัญในการใช้ตู้สแตนเลสเก็บของคอนโทรลไฟฟ้าเพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่วและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน ตู้ไฟฟ้าที่มีระบบแรงดันไฟฟ้าสูงหรือใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นจำเป็นต้องมีการติดตั้งระบบกราวด์ (Grounding) ที่ถูกต้อง ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้:
การเชื่อมต่อโครงตู้กับระบบกราวด์: การติดตั้งกราวด์ในตู้ไฟฟ้าโดยเชื่อมต่อโครงตู้กับสายกราวด์ (Grounding Wire) ช่วยให้ในกรณีที่เกิดไฟฟ้ารั่วหรือมีการลัดวงจร กระแสไฟฟ้าจะถูกดึงลงไปที่พื้นดิน ผ่านทางโครงตู้ที่เชื่อมต่อกับระบบกราวด์ ทำให้ลดความเสี่ยงของไฟฟ้าช็อตหรือไฟฟ้ารั่วที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้งาน
การป้องกันจากไฟฟ้ารั่ว: ระบบกราวด์ช่วยให้กระแสไฟฟ้าที่รั่วจากอุปกรณ์ไฟฟ้า (เช่น มอเตอร์, สวิตช์ หรือเครื่องควบคุม) ไหลเข้าสู่พื้นดินได้ทันที ลดโอกาสที่ผู้ใช้งานจะได้รับอันตรายจากการสัมผัสกับส่วนที่มีไฟฟ้าไหลผ่าน ☑ รายละเอียดสินค้าและราคา
ความสำคัญในพื้นที่ชื้น: การติดตั้งระบบกราวด์ในตู้สแตนเลสที่ใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น โรงงานที่มีการปล่อยน้ำหรือพื้นที่ที่มีการใช้งานกลางแจ้งที่สัมผัสกับฝน ช่วยป้องกันไฟฟ้ารั่วที่อาจเกิดขึ้นจากการสัมผัสกับน้ำหรือสารเคมี ซึ่งทำให้การป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การบำรุงรักษาระบบกราวด์: การตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบกราวด์อย่างสม่ำเสมอ เช่น การตรวจสอบความต้านทานของระบบกราวด์และการเปลี่ยนสายกราวด์ที่มีการสึกหรอ จะช่วยให้ระบบกราวด์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว
สอบถามและปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าได้โดยตรง
บริการนำเข้าทางเครื่องบิน (Air Freight)
มีสต็อกพร้อมส่งในประเทศ รองรับการใช้งานได้ทันที
✅ จัดส่งได้ทันทีภายใน 1–2 วันทำการ
✅ ปริมณฑล และต่างจังหวัด 2-3 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการขนส่งเอกชน) **สามารถระบุได้
สั่งผลิตตามขนาดและความต้องการใช้งานได้
✅เลือกขนาดได้อิสระ: กำหนด ความกว้าง x ความสูง x ความลึก ตามพื้นที่ใช้งาน









