เคเบิ้ลแกลนพลาสติก Plastic Cable Gland
เคเบิ้ลแกลนพลาสติก (Plastic Cable Gland – PA66) คืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อ ยึด จัดระเบียบ และป้องกันสายไฟหรือสายเคเบิ้ล ให้ปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะในงานติดตั้งระบบไฟฟ้า ตู้ควบคุม หรือเครื่องจักรมีมาตรฐาน การป้องกัน IP68 ป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะสำหรับใช้งานทั้งในร่มและกลางแจ้ง เช่น ตู้ไฟฟ้า เครื่องจักรอัตโนมัติ งานติดตั้งสายสื่อสาร ฯลฯ มีหลายขนาดและเกลียวให้เลือก เช่น M, PG, NPT และสามารถเลือกสี เช่น สีเทา สีดำ ตามลักษณะการใช้งาน
สินค้าแนะนำและใกล้เคียง
เคเบิ้ลแกลนพลาสติก Polyamide หรือ PA66 คืออะไร?
คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดสายไฟหรือสายเคเบิลให้มั่นคงในตำแหน่ง โดยการเชื่อมต่อระหว่างสายไฟและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบไฟฟ้า โดยทำจากวัสดุ Polyamide 66 (PA66) ซึ่งเป็นพลาสติกที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงดึงและแรงกระแทกได้ดี ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแกร่งและทนทานต่อสารเคมีและอุณหภูมิสูง ทำให้ PA66 เป็นวัสดุที่เหมาะสมในการผลิตที่ใช้งานในงานในพื้นที่กลางแจ้งที่มีแสงแดด ความสามารถในการทนต่อความร้อนที่สูง
รายละเอียดสินค้าและราคา
สินค้าและบทความใกล้เคียง
คุณสมบัติที่สำคัญของ Nylon Cable gland (PA66)
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่สำคัญของ Nylon (PA66) คือความทนทานของวัสดุ PA66 ซึ่งมีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี น้ำมัน กรดอ่อน และสารเคมีหลายชนิดที่อาจพบได้ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ในอุตสาหกรรมเคมี พลังงาน หรือการผลิตอาหาร มีความแข็งแรงสูงและทนทานต่อการใช้งานในอุณหภูมิที่กว้าง ตั้งแต่ -40°C ถึง 100°C ซึ่งทำให้สามารถใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิหรือมีสารเคมีในอากาศได้โดยไม่เกิดการเสื่อมสภาพ ความสามารถในการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP68) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบสายไฟการติดตั้งสายไฟในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือฝุ่นเป็นสิ่งที่ท้าทาย เพราะสามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ มาตรฐาน IP68
📊 ตารางขนาดเคเบิ้ลแกลนพลาสติก (M-Series)
| ขนาดเกลียว (Thread Size) | ช่วงขนาดสาย (Cable Range) | ขนาดรูเจาะ (Mounting Hole) | ความยาวเกลียว (Thread Length) |
|---|---|---|---|
| M12 x 1.5 | 3 – 6.5 mm | 12 mm | 8 mm |
| M16 x 1.5 | 4 – 8 mm | 16 mm | 8 mm |
| M20 x 1.5 | 6 – 12 mm | 20 mm | 10 mm |
| M25 x 1.5 | 9 – 16 mm | 25 mm | 10 mm |
| M32 x 1.5 | 11 – 21 mm | 32 mm | 12 mm |
| M40 x 1.5 | 19 – 28 mm | 40 mm | 14 mm |
| M50 x 1.5 | 27 – 35 mm | 50 mm | 14 mm |
| M63 x 1.5 | 34 – 44 mm | 63 mm | 14 mm |
| M75 x 2.0 | 42 – 53 mm | 75 mm | 16 mm |
| M90 x 2.0 | 54 – 64 mm | 90 mm | 18 mm |
| M100 x 2.0 | 65 – 75 mm | 100 mm | 18 mm |
การติดตั้งสายไฟเคเบิ้ลแกลนพลาสติก Nylon (PA66)
การติดตั้งระบบไฟฟ้าในอุตสาหกรรมและอาคารต่างๆ จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่สามารถป้องกันสายไฟจากอันตรายภายนอกและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันการรั่วไหลของไฟฟ้าและการสัมผัสกับน้ำหรือฝุ่น ด้วยคุณสมบัติที่ได้รับมาตรฐาน IP68 ทำให้สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงและการสัมผัสกับของเหลวได้โดยไม่มีปัญหาการรั่วซึม Nylon (PA66)
☑ เคเบิ้ลแกลน เป็นวัสดุที่มีความทนทานสูง ทั้งทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี น้ำมัน กรดอ่อน และแอลกอฮอล์ ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในสภาพแวดล้อมที่อาจมีการสัมผัสกับสารเคมีหรือในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม สถานีไฟฟ้า หรือระบบไฟฟ้ากลางแจ้ง
ความสามารถในการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP68)
มาตรฐานการป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่ถูกกำหนดโดย มาตรฐาน IP (Ingress Protection) ซึ่งใช้วัดระดับความสามารถของอุปกรณ์ในการป้องกันการเข้าของของเหลวและฝุ่น มาตรฐานนี้จะแสดงด้วยรหัสสองหลัก คือ IP ตามด้วยตัวเลขสองตัวที่แสดงถึงระดับการป้องกันต่อฝุ่นและน้ำ การป้องกันฝุ่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรม อาคารที่มีการก่อสร้าง หรือบริเวณที่มีการทำงานภายนอก ซึ่งฝุ่นหรืออนุภาคต่างๆ สามารถเข้าสู่อุปกรณ์ได้
สามารถป้องกัน สนิม ได้ดีเนื่องจาก สแตนเลส มีคุณสมบัติที่ทนต่อการกัดกร่อนและไม่เป็นสนิม ซึ่งทำให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือมีการสัมผัสกับสารเคมีหรือกรดต่างๆ
ทำไมการป้องกันการรั่วซึมจึงสำคัญ?
ความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า การรั่วซึมของน้ำหรือสารเคมีเข้าสู่สายไฟอาจทำให้เกิดความเสียหาย เช่น การลัดวงจร ซึ่งนำไปสู่ปัญหาความปลอดภัยที่ร้ายแรง ยืดอายุการใช้งานของสายไฟ เมื่อสายไฟได้รับการป้องกันจากความชื้นและสารเคมี ระบบไฟฟ้าจึงสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและยาวนาน รองรับงานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงเหมาะสำหรับงานที่ต้องเผชิญกับความชื้นสูง เช่น โรงงานผลิตอาหาร, โรงงานเคมี หรือพื้นที่ที่ต้องสัมผัสกับน้ำทะเล
New series
2025
- ความทนทานต่อสารเคมี Polyamide 66 (PA66) หรือ ไนลอน 66 เป็นวัสดุที่ทนทานต่อสารเคมีหลายประเภท เช่น กรดอ่อน น้ำมันและไขมัน และสารเคมีต่าง ๆ ที่อาจพบในอุตสาหกรรมเคมีหรือในสภาพแวดล้อมที่มีการสัมผัสกับสารเคมีบ่อยครั้ง ด้วยคุณสมบัตินี้ทำให้ เหมาะสมกับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่มีสารเคมีเข้มข้น ซึ่งช่วยป้องกันการกัดกร่อนของระบบสายไฟและยืดอายุการใช้งาน
- ความแข็งแรงสูงและทนทานต่อแรงดึง วัสดุ PA66 มีคุณสมบัติที่แข็งแรงและทนทานต่อแรงดึงสูง ทำให้สามารถรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญกับแรงกระแทกหรือการดึงสายไฟในระยะยาวได้โดยไม่แตกหักหรือเสื่อมสภาพได้ง่าย
- ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ PA66 สามารถทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ดี โดยทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิที่กว้างตั้งแต่ -40°C ถึง 100°C ทำให้สามารถใช้งานได้ในหลากหลายสภาพแวดล้อม ทั้งในที่ร้อนและที่เย็น โดยไม่เกิดการเสียหายหรือยุบตัวของวัสดุ
- คุณสมบัติทนทานต่อการเสื่อมสภาพจาก UV (Ultraviolet) ความสามารถของวัสดุในการต้านทานหรือชะลอการเสื่อมสภาพที่เกิดจากการสัมผัสกับรังสียูวีจากแสงแดดหรือแหล่งที่มีการปล่อยรังสี UV ซึ่งเป็นสิ่งที่ส่งผลให้วัสดุพลาสติกหลายชนิดมีการแตกหัก เปราะบาง หรือเปลี่ยนสีเมื่อถูกแสงแดดหรือละอองรังสี UV ในระยะยาว รังสียูวีจากแสงแดดประกอบด้วยพลังงานที่สูง ซึ่งสามารถทำให้โมเลกุลของวัสดุพลาสติกเกิดการแตกตัว หรือการปรับโครงสร้างที่ไม่สามารถฟื้นฟูได้ในบางกรณี ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพ การสูญเสียความแข็งแรง และอายุการใช้งานของวัสดุลดลง
การดูแลรักษาเคเบิ้ลแกลนพลาสติก
การติดตั้งและการดูแลรักษา เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า การติดตั้งที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการเกิดปัญหาเช่น การรั่วซึมหรือการเคลื่อนที่ของสายไฟ ในขณะที่การบำรุงรักษาที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาความปลอดภัยในการใช้งานอย่างยาวนาน
การตรวจสอบและทำความสะอาด ควรได้รับการตรวจสอบเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่ายังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีรอยแตกหักหรือเสื่อมสภาพจากการใช้งาน เช่น การสึกกร่อนจากสารเคมี หรือการเสื่อมจากแสงแดด การทำความสะอาด ควรใช้ผ้านุ่มหรือแปรงที่ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วน เพื่อล้างฝุ่นหรือสิ่งสกปรกออก
การตรวจสอบความแน่น หลังจากใช้งานไประยะหนึ่ง ควรตรวจสอบการยึดน็อตและการซีลของ O-Ring และ Seal ให้แน่ใจว่าทุกชิ้นส่วนยังทำงานได้ดีและไม่มีการหลวม เพราะหากน็อตหลวมอาจทำให้เกิดการรั่วซึมหรือการเสียหายต่อระบบไฟฟ้า
การตรวจสอบสภาพภายนอก เนื่องจากมีคุณสมบัติทนทานต่อ UV แต่ก็ยังจำเป็นต้องตรวจสอบว่าไม่มีการเสื่อมสภาพจากแสงแดดหรือการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความรุนแรงเกินไป เช่น ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำ
การเปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อม หากระบบไฟฟ้าของคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น อุณหภูมิที่สูงมาก หรือการสัมผัสกับสารเคมี ควรพิจารณาการเลือกใช้ที่เหมาะสมที่สามารถทนทานกับสภาพแวดล้อมเหล่านี้ได้ เพื่อให้การทำงานของระบบไฟฟ้าเป็นไปอย่างราบรื่น
หลีกเลี่ยงการใช้งานในอุณหภูมิที่เกินขีดจำกัด แม้ว่า เคเบิ้ลแกลน PA66 จะทนทานต่ออุณหภูมิที่สูงหรือเย็นได้ในระดับหนึ่ง (โดยปกติ -40°C ถึง 100°C) แต่หากใช้งานในสภาพอุณหภูมิที่เกินขีดจำกัดที่วัสดุสามารถทนได้ ก็อาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพหรือแตกหักได้ง่าย ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปหรืออุณหภูมิที่ต่ำเกินไป
ผลงานสินค้าและบริการของเรา
ขั้นตอนการตรวจสอบและติดตั้งเกลียว PG, M, และ NPT
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบประเภทเกลียวที่ใช้งาน ก่อนเริ่มติดตั้ง ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์หรือรูติดตั้งมีการต๊าปเกลียวไว้แล้วหรือไม่ หากต๊าปไว้แล้ว ต้องทราบว่าประเภทเกลียวคือ PG, M, หรือ NPT พร้อมยืนยันขนาดเกลียว เช่น PG13.5, PG16, M32, M40, หรือ NPT3/4” โดยข้อมูลนี้จะช่วยให้การติดตั้งเหมาะสมและมั่นใจในความเข้ากันได้ของเกลียว
ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบขนาดรูติดตั้ง วัดขนาดรูที่ต้องการติดตั้งด้วยเครื่องมือวัดที่เหมาะสม เช่น เวอร์เนียร์หรือไมโครมิเตอร์ เพื่อยืนยันว่าขนาดรูตรงกับขนาดเกลียวที่เลือก หากรูติดตั้งมีขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไป อาจต้องเจาะใหม่หรือติดตั้งอะแดปเตอร์เกลียวที่เหมาะสม
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบสายเคเบิ้ลให้เหมาะสม สำรวจสายเคเบิ้ลที่จะใช้งาน โดยวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสาย และเปรียบเทียบกับ Cable Range ของเคเบิ้ลยึดสายไฟรุ่นนั้น ๆ หากสายเล็กหรือใหญ่เกินไป อาจทำให้การซีลไม่แน่นหนา หรือทำให้เกิดแรงดึงมากเกินไปที่สายเคเบิ้ล
ขั้นตอนที่ 4: ติดตั้งเคเบิ้ลและขันเกลียวให้แน่น เมื่อเลือกขนาดที่เหมาะสมแล้ว ให้สอดสายเคเบิ้ลผ่าน Cable gland และปรับตำแหน่งให้สายอยู่ในจุดที่เหมาะสม จากนั้นขันส่วนเกลียวให้แน่นเพื่อให้ซีลยางทำงานเต็มที่ ควรหลีกเลี่ยงการขันแน่นเกินไป เพราะอาจสร้างแรงกดต่อสายจนเกิดความเสียหาย ☑ รายละเอียดสินค้าและราคา
ส่วนประกอบหลักแต่ละชิ้นทำหน้าที่สำคัญในการยึดและป้องกันสายไฟ
- Lock Nut (น็อตล็อก) หน้าที่: ใช้ในการยึดตัวเคเบิ้ลแกับแผงหรือโครงสร้าง เช่น ติดตั้งบนฝาผนังหรือแผ่นโลหะ ซึ่งจะช่วยให้ตัว Cable gland ยึดติดแน่นและไม่เคลื่อนที่ ลักษณะเด่น: น็อตนี้มักจะมี เกลียวที่แน่น และ ทนทาน ทำจาก ไนลอน PA66 ที่มีความแข็งแรงสูง ซึ่งจะป้องกันการคลายตัวจากแรงสั่นสะเทือนหรือการใช้งานหนัก ๆ ทำให้การติดตั้งมีความมั่นคงมากขึ้น
- Washer (แผ่นรองน็อต) หน้าที่: อยู่ใต้ Lock Nut เพื่อกระจายแรงกดจากการขันน็อตให้ทั่วถึงและช่วยป้องกันไม่ให้พื้นผิวที่ติดตั้งเกิดการขีดข่วนหรือการสึกหรอ ลักษณะเด่น: แผ่นรองน็อตช่วยให้ แรงกด จาก Lock Nut ไม่ไปกดทับส่วนอื่น ๆ ของ ตัวเคเบิ้ลยึดสายไฟ มากเกินไป และยังป้องกันการเกิดการขูดขีดกับพื้นผิวการติดตั้ง ซึ่งสามารถลดการเสื่อมสภาพของวัสดุได้
- Body (ตัวเรือน) หน้าที่: เป็นส่วนที่เชื่อมต่อทั้งหมดของ เคเบิ้ลรัดสายไฟ โดยมี เกลียว สำหรับขันเข้ากับ Lock Nut และสามารถใส่ สายไฟ หรือ สายเคเบิ้ล ผ่านช่องด้านใน ลักษณะเด่น: ตัวเรือนทำจาก ไนลอน PA66 ซึ่งมีความแข็งแรงและทนทานต่อแรงดึงหรือแรงกระแทก สร้างความมั่นใจว่า สายไฟ จะถูกยึดไว้ภายในได้อย่างมั่นคงและไม่หลุดออกจากตำแหน่งเมื่อเกิดการเคลื่อนที่
FAQ คำถามที่พบบ่อย