เคเบิ้ลแกลน Cable Gland IP68
เคเบิ้ลแกลนด์ (Cable Gland) คือ อุปกรณ์สำหรับยึดและจัดการสายไฟให้ติดตั้งเข้ากับตู้ไฟฟ้า กล่องพักสาย หรือท่อร้อยสายได้อย่างแน่นหนา ช่วยป้องกันสายไฟไม่ให้ขยับหรือหลุดจากแรงดึง และยังป้องกันฝุ่น น้ำ หรือความชื้นเข้าสู่จุดเชื่อมต่อ เหมาะสำหรับใช้ในงานระบบไฟฟ้า เครื่องจักร และอุตสาหกรรมต่างๆ มีให้เลือกหลายวัสดุ เช่น พลาสติก ทองเหลือง และสแตนเลส ตามสภาพแวดล้อมการใช้งาน รองรับมาตรฐาน IP68 ป้องกันน้ำและฝุ่นไ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของสายไฟ
ทำหน้าที่การยึดสายไฟ Cable Retention and Secure Fitting
ช่วยให้สายไฟถูกยึดให้แน่นและปลอดภัยในตำแหน่งที่ถูกต้องในขณะที่ทำการติดตั้ง โดยมีการยึดด้วยเกลียว, ครีบ หรือคลิปที่ช่วยยึดสายไฟให้มั่นคง ซึ่งช่วยป้องกันการหลุดหรือการขยับของสายไฟที่อาจทำให้เกิดความเสียหายหรือความเสี่ยงต่อการลัดวงจรของระบบไฟฟ้า การยึดสายไฟคือกระบวนการทำให้สายไฟอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคงและปลอดภัยระหว่างการติดตั้งช่วยลดความเสี่ยงที่สายไฟจะหลุดหรือขยับจากแรงดึง แรงสั่นสะเทือน หรือการใช้งาน
รายละเอียดสินค้าและราคา
วัสดุพลาสติก, ทองเหลืองชุบนิกเกิล และ สแตนเลส
พลาสติก (Polyamide 66 หรือ PA66) น้ำหนักเบาและความยืดหยุ่น: มีน้ำหนักเบากว่า ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในระบบที่ต้องการลดน้ำหนัก รวมถึงงานที่มีการเคลื่อนย้ายบ่อยๆ หรือใช้งานในพื้นที่ที่ไม่จำเป็นต้องมีการรับแรงกดมาก ป้องกันการกัดกร่อนจากสารเคมีและความชื้น: พลาสติกประเภท PA66 มีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำและสารเคมีทั่วไป ซึ่งช่วยให้การใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือสัมผัสกับสารเคมีต่างๆ เป็นไปได้อย่างปลอดภัย ทนทานต่อ UV: ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพจากแสงแดดหรือ UV ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่กลางแจ้งหรือที่มีแสงแดด
ตารางขนาดและวัสดุของเคเบิ้ลแกลนด์
| ขนาดเกลียว | ช่วงขนาดสายไฟ (Cable Range) | วัสดุ (Material) | การใช้งานและคุณสมบัติ |
|---|---|---|---|
| M12 × 1.5 | 3 – 6.5 mm | พลาสติก (Plastic) | ใช้สำหรับระบบไฟฟ้าขนาดเล็กหรือในสภาพแวดล้อมทั่วไป |
| M16 × 1.5 | 4 – 8 mm | ทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel Plated Brass) | ทนทานต่อการกัดกร่อน เหมาะกับการใช้งานในโรงงานหรือพื้นที่ที่มีความชื้น |
| M20 × 1.5 | 6 – 12 mm | สแตนเลส (Stainless Steel) | ใช้ในอุตสาหกรรมหนัก เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคารและงานที่ต้องการทนทานสูง |
| M25 × 1.5 | 9 – 16 mm | ทองเหลือง (Brass) | ใช้งานในอุตสาหกรรมกลางแจ้ง ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเลหรือสารเคมี |
| M32 × 1.5 | 11 – 21 mm | สแตนเลส (Stainless Steel) | ใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือที่มีการกัดกร่อนมาก |
| M40 × 1.5 | 19 – 28 mm | พลาสติก (Plastic) | ใช้งานในสถานที่ที่ต้องการความยืดหยุ่นและกันน้ำได้ตามมาตรฐาน IP67 |
| M50 × 1.5 | 27 – 35 mm | ทองเหลือง (Brass) | ใช้ในงานที่ต้องรองรับแรงดึงสูงและการป้องกันฝุ่นในงานอุตสาหกรรม |
| M63 × 1.5 | 34 – 44 mm | สแตนเลส (Stainless Steel) | ใช้งานในงานกลางแจ้งหรือในสถานที่ที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูง |
การใช้งานในอุตสาหกรรมอาหารและยา พื้นที่ใกล้ทะเล
คุณสมบัติที่ดีในการทนต่อการกัดกร่อน
ทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel Brass) ทนทานต่อการกัดกร่อน: ทองเหลืองชุบนิกเกิลมีคุณสมบัติที่ดีในการทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีและความชื้น ช่วยให้การใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการสัมผัสกับน้ำหรือความชื้นสูง เช่น โรงงานหรือพื้นที่ที่ต้องการการป้องกันจากการกัดกร่อนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ความแข็งแรงและความทนทาน: ทองเหลืองชุบนิกเกิลมีความแข็งแรงสูงสามารถรับแรงกระแทกได้ดี จึงเหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความทนทานในการใช้งานหนัก เช่น ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม
คุณสมบัติในการใช้งานในสภาพแวดล้อมรุนแรง: ทองเหลืองชุบนิกเกิลทนทานต่อแรงดันและการกัดกร่อนได้ดีกว่า ประเภทอื่น ๆ จึงเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการสัมผัสกับสารเคมี
วัสดุของเคเบิ้ลแกลนป้องกันการกัดกร่อนและความทนทาน
ป้องกันการกัดกร่อนและความทนทานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง (Corrosion Resistance and Durability) วัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อน เช่น สแตนเลส, ทองเหลืองชุบนิกเกิล หรือพลาสติกที่มีคุณสมบัติทนต่อ UV จะสามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือการสัมผัสกับสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสมได้ดีกว่า ซึ่งทำให้ระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ มีความทนทานและมั่นคงมากขึ้น การป้องกันการรั่วซึม (Waterproofing and Sealing) ช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรก, น้ำ, หรือฝุ่นละอองเข้าไปภายในสายไฟหรือสายเคเบิล โดยใช้วัสดุที่ทนทานเช่น ซีนยาง ซึ่งช่วยให้สายไฟทำงานได้อย่างปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานรับรองมาตรฐาน IP68 สามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างเต็มที่ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือการสัมผัสกับน้ำ
การเลือกประเภทที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของสายไฟ โดยทั่วไปสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ พลาสติก, ทองเหลืองชุบนิกเกิล, สแตนเลส แต่ละประเภทมีลักษณะเด่นเฉพาะตัวดังนี้:
- 1. Nylon Cable Gland เคเบิ้ลรัดสายไฟพลาสติกเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ยึดและปกป้องสายไฟในงานติดตั้งระบบไฟฟ้า ผลิตจากวัสดุโพลิเอไมด์ (PA66) ที่มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา และทนต่อการกัดกร่อน มีคุณสมบัติป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือฝุ่นสูง ตัวแกลนออกแบบให้ติดตั้งง่าย พร้อมอุปกรณ์เสริมครบชุด เช่น น็อตล็อกและซีลยาง มีความสามารถทนต่ออุณหภูมิสูงและรังสี UV ทำให้เหมาะกับการใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร
- 2. Nickel Brass Cable Gland ทองเหลืองชุบนิกเกิล เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อยึดและปกป้องสายไฟในระบบติดตั้งไฟฟ้า ผลิตจากทองเหลืองคุณภาพสูงเคลือบนิกเกิลเพื่อเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อนและสภาพแวดล้อมที่รุนแรง มีมาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่น IP68 ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง
3.Stainless Cable Gland เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดและป้องกันสายไฟจากสภาพแวดล้อมที่อาจเกิดการกัดกร่อน โดยผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 ซึ่งมีความทนทานสูงต่อการกัดกร่อนจากน้ำ, สารเคมี, และสภาพอากาศที่รุนแรง มักใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานสูง เช่น อุตสาหกรรมการผลิต, และงานนอกอาคารที่มีการสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น ซึ่งให้การป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เกลียว PG, M หรือ NPT เพื่อติดตั้งเข้ากับแผงหรือโครงสร้างต่างๆ พร้อมกับซีลยางคุณภาพสูงเพื่อป้องกันการรั่วซึม ความแข็งแรงของวัสดุทำให้มันสามารถรองรับอุณหภูมิสูงและแรงดันได้ดี เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการป้องกันที่แน่นหนาและการติดตั้งที่ง่ายดาย รวมทั้งช่วยป้องกันการขยับของสายไฟในขณะใช้งาน
ส่วนประกอบที่สำคัญของเคเบิ้ลแกลนสแตนเลสมีดังนี้:
1. Lock Nut (น็อตล็อก) หน้าที่: ใช้สำหรับขันยึดเคเบิ้ลสแตนเลสกับพื้นผิวหรือแผงติดตั้งเพื่อให้เคเบิ้ลสแตนเลสอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง ลักษณะเด่น: มีเกลียวที่แน่นและแข็งแรง ทำจากสแตนเลสเพื่อป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อ
2. O-Ring (โอริง) หน้าที่: ทำหน้าที่ซีลระหว่างตัวเคเบิ้ลสแตนเลสและพื้นผิวการติดตั้ง เพื่อป้องกันน้ำ ฝุ่น และสารเคมีไม่ให้เข้าสู่ระบบสายไฟ ลักษณะเด่น: ผลิตจากยางคุณภาพสูงที่มีความยืดหยุ่นและทนต่ออุณหภูมิและสารเคมี
3. Body (ตัวเรือน) หน้าที่: เป็นโครงสร้างหลักของ ☑ เคเบิ้ลแกลน ที่ใช้เชื่อมต่อกับสายไฟและอุปกรณ์อื่น ๆ ลักษณะเด่น: ทำจากสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 เพื่อความทนทานต่อการกัดกร่อนและการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น น้ำทะเลหรือกรดอ่อน
4. Seal (ซีล) หน้าที่: ป้องกันน้ำและฝุ่นไม่ให้ผ่านเข้าสู่ภายในเคเบิ้ลสแตนเลส โดยซีลนี้จะรัดสายไฟให้แน่นเพื่อป้องกันการรั่วซึม ลักษณะเด่น: มักทำจากวัสดุที่ทนทานต่อการใช้งานในอุณหภูมิสูงและสารเคมี
5. Claw (คลอว์) หน้าที่: ทำหน้าที่ยึดสายไฟให้มั่นคงภายในตัวเคเบิ้ลสแตนเลส ช่วยป้องกันสายไฟไม่ให้เคลื่อนที่หรือหลุดออกจากตำแหน่ง ลักษณะเด่น: มีลักษณะเป็นฟันที่ยึดสายไฟอย่างแน่นหนาโดยไม่ทำให้สายไฟเสียหาย
6. Thread-lock Sealing Nut (น็อตเกลียวซีลล็อก) หน้าที่: ใช้สำหรับขันปิดตัวเรือนเพื่อให้ทุกส่วนประกอบของเคเบิ้ลสแตนเลสทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์ โดยช่วยบีบซีลและคลอว์ให้ยึดติดกับสายไฟอย่างแน่นหนา ลักษณะเด่น: มีเกลียวที่แม่นยำ แข็งแรง และทำจากสแตนเลสเพื่อความทนทาน
ส่วนประกอบทั้งหมดทำงานร่วมกันเพื่อให้สายไฟได้รับการปกป้องจากน้ำ ฝุ่น และแรงดึง ทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้า เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานและความน่าเชื่อถือสูง!
ผลงานสินค้าและบริการของเรา
ขั้นตอนการตรวจสอบและติดตั้งเกลียว PG, M, และ NPT
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบประเภทเกลียวที่ใช้งาน ก่อนเริ่มติดตั้ง ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์หรือรูติดตั้งมีการต๊าปเกลียวไว้แล้วหรือไม่ หากต๊าปไว้แล้ว ต้องทราบว่าประเภทเกลียวคือ PG, M, หรือ NPT พร้อมยืนยันขนาดเกลียว เช่น PG13.5, PG16, M32, M40, หรือ NPT3/4” โดยข้อมูลนี้จะช่วยให้การติดตั้งเหมาะสมและมั่นใจในความเข้ากันได้ของเกลียว
ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบขนาดรูติดตั้ง วัดขนาดรูที่ต้องการติดตั้งด้วยเครื่องมือวัดที่เหมาะสม เช่น เวอร์เนียร์หรือไมโครมิเตอร์ เพื่อยืนยันว่าขนาดรูตรงกับขนาดเกลียวที่เลือก หากรูติดตั้งมีขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไป อาจต้องเจาะใหม่หรือติดตั้งอะแดปเตอร์เกลียวที่เหมาะสม
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบสายเคเบิ้ลให้เหมาะสม สำรวจสายเคเบิ้ลที่จะใช้งาน โดยวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสาย และเปรียบเทียบกับ Cable Range ของเคเบิ้ลยึดสายไฟรุ่นนั้น ๆ หากสายเล็กหรือใหญ่เกินไป อาจทำให้การซีลไม่แน่นหนา หรือทำให้เกิดแรงดึงมากเกินไปที่สายเคเบิ้ล
ขั้นตอนที่ 4: ติดตั้งเคเบิ้ลและขันเกลียวให้แน่น เมื่อเลือกขนาดที่เหมาะสมแล้ว ให้สอดสายเคเบิ้ลผ่าน Cable gland และปรับตำแหน่งให้สายอยู่ในจุดที่เหมาะสม จากนั้นขันส่วนเกลียวให้แน่นเพื่อให้ซีลยางทำงานเต็มที่ ควรหลีกเลี่ยงการขันแน่นเกินไป เพราะอาจสร้างแรงกดต่อสายจนเกิดความเสียหาย ☑ รายละเอียดสินค้าและราคา
วิธีเลือกเคเบิ้ลแกลนด์รุ่นมาตรฐานและรุ่นกันระเบิด การเลือกใช้งานที่เหมาะสมระหว่างรุ่นมาตรฐานและรุ่นกันระเบิดควรพิจารณาตามความต้องการเฉพาะของงานและลักษณะของพื้นที่ติดตั้ง โดยมีปัจจัยสำคัญดังนี้:
- ประเภทของพื้นที่ติดตั้งรุ่นมาตรฐาน (Standard): เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ทั่วไป เช่น อาคารสำนักงาน โรงงานผลิตทั่วไป หรือสถานที่ที่ไม่มีความเสี่ยงจากการเกิดประกายไฟ, น้ำ, หรือฝุ่นในระดับสูง รุ่นมาตรฐาน: รองรับมาตรฐานทั่วไป เช่น IP68 (ป้องกันน้ำและฝุ่น) และมาตรฐาน CE สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าในพื้นที่ธรรมดา
- รุ่นกันระเบิด (Explosion-Proof ): เหมาะสำหรับพื้นที่เสี่ยงที่มีการปนเปื้อนของก๊าซไวไฟ ฝุ่นระเบิด หรือสารเคมี เช่น โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมี เหมืองแร่ และสถานที่เก็บก๊าซหรือสารไวไฟ รุ่นกันระเบิด: ผ่านการรับรองมาตรฐานเฉพาะ เช่น ATEX, IECEx, UL และ KCs ซึ่งจำเป็นสำหรับการใช้งานในพื้นที่อันตราย เพื่อรับรองว่าการใช้งานปลอดภัยในกรณีที่มีการสัมผัสกับก๊าซหรือฝุ่นไวไฟ
สอบถามและปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าได้โดยตรง
บริการนำเข้าทางเครื่องบิน (Air Freight)
มีสต็อกพร้อมส่งในประเทศ รองรับการใช้งานได้ทันที
✅ จัดส่งได้ทันทีภายใน 1–2 วันทำการ
✅ ปริมณฑล และต่างจังหวัด 2-3 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการขนส่งเอกชน) **สามารถระบุได้
สั่งผลิตตามขนาดและความต้องการใช้งานได้
✅เลือกขนาดได้อิสระ: กำหนด ความกว้าง x ความสูง x ความลึก ตามพื้นที่ใช้งาน




















