cable gland โลหะ | สแตนเลส
Cable Gland โลหะสแตนเลส คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อสายไฟหรือสายเคเบิลเข้ากับกล่องไฟฟ้า หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ โดยมีคุณสมบัติที่สำคัญในการป้องกันน้ำ ฝุ่น หรือสารเคมีจากการเข้าไปในระบบไฟฟ้า และยังช่วยในการยึดสายไฟให้แน่นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการลัดวงจรหรือการหลุดของสายไฟ วัสดุสแตนเลส (โดยเฉพาะ Stainless Steel 304-316) มีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเล ไอเกลือ สารเคมี และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
วิธีเลือกขนาด Cable Gland โลหะสแตนเลส
การเลือกต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ขนาดของสายไฟ และประเภทเกลียวที่ตรงกับการใช้งาน (Metric, PG, NPT) เพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อมต่อได้อย่างปลอดภัย การเลือกมาตรฐาน IP68 ก็สำคัญในการป้องกันน้ำและฝุ่น ควรเลือกวัสดุสแตนเลสที่ทนทาน เช่น Stainless Steel 304 หรือ 316 ตามสภาพแวดล้อมการใช้งาน นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงความทนทานต่อการสั่นสะเทือนและความร้อน หากงานนั้นต้องเจอสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหวหรืออุณหภูมิสู
รายละเอียดสินค้าและราคา
การติดตั้ง Cable Gland โลหะสแตนเลส
ถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิสูง หรือลมแรง ทำให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมกลางแจ้ง เช่น พลังงานแสงอาทิตย์, การก่อสร้าง, และการขนส่ง สแตนเลสมีคุณสมบัติต้านทานการกัดกร่อนจากฝน น้ำเค็ม หรือสารเคมีที่พบในอุตสาหกรรมกลางแจ้ง การเลือกที่มีการป้องกันตามมาตรฐาน IP68 จะช่วยป้องกันการรั่วซึมจากน้ำและฝุ่น ทำให้ระบบไฟฟ้าในพื้นที่กลางแจ้งทำงานได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพจากการสัมผัสกับแสง UV และสภาพแวดล้อมที่มีความรุนแรง
ตารางการใช้งานเคเบิ้ลโลหะสแตนเลส
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
วัสดุ | สแตนเลส 304 หรือ 316 เพื่อทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำเค็มและสารเคมี |
มาตรฐานการป้องกัน | IP68 สำหรับการป้องกันน้ำและฝุ่น |
ความทนทานต่อ UV | ทนทานต่อการเสื่อมสภาพจากแสงแดดและสภาพแวดล้อมกลางแจ้ง |
การติดตั้ง | ติดตั้งง่ายด้วยเกลียวที่เหมาะสม (Metric, PG, NPT) |
การใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง | เหมาะสำหรับงานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือลมแรง |
การป้องกันการรั่วซึม | ช่วยป้องกันการรั่วซึมของน้ำ ฝุ่น และสารเคมี |
สแตนเลสที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมมี 2 ชนิดหลัก:
Stainless Steel 304: เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีการกัดกร่อนรุนแรง
Stainless Steel 316: เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อนสูง เช่น ใกล้ทะเลหรือในอุตสาหกรรมเคมี
วิธีเลือกขนาดและประเภทที่เหมาะสมกับงาน
1. เลือกขนาดให้เหมาะสมกับสายไฟ
ขนาดของ Cable Gland ต้องตรงกับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟที่ใช้เพื่อการยึดเกาะที่มั่นคงและป้องกันการรั่วซึม
การเลือกขนาดที่เหมาะสมจะช่วยให้การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างปลอดภัย
2. เลือกประเภทเกลียว (Metric, PG, NPT)
Metric: เป็นเกลียวมาตรฐานที่ใช้ในงานทั่วไป เช่น ในอุตสาหกรรมทั่วไป เคเบิ้ลแกลน
PG: เหมาะสำหรับงานที่มีความสั่นสะเทือนสูง เช่น เครื่องจักรกล
NPT: ใช้สำหรับงานที่ต้องการการซีลที่ดีเยี่ยม เช่น ระบบท่อหรืออุปกรณ์ที่สัมผัสกับน้ำหรือก๊าซ
คุณสมบัติเคเบิ้ลแกลนสแตนเลส 304/316
1. ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำเค็มและสารเคมี สแตนเลส 316 เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติต้านทานการกัดกร่อนจากน้ำทะเลและสารเคมีต่าง ๆ ซึ่งเป็นปัญหาหลักในอุตสาหกรรมทางทะเลและในพื้นที่ใกล้ทะเลที่มีความชื้นสูง ความทนทานนี้ช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้าในสภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อนสูง
2. ทนทานต่อสภาพแวดล้อมกลางแจ้ง เหมาะสำหรับงานในพื้นที่กลางแจ้งที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิหรือมีลมแรง ซึ่งสามารถทนต่อการสึกกร่อนจากแสงแดดและฝุ่นละออง การเลือกที่มีมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP68 จะช่วยให้ระบบไฟฟ้าในกลางแจ้งมีความปลอดภัยจากฝนและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
cable gland โลหะ การป้องกันจากการสั่นสะเทือน
ความสำคัญในการป้องกันการสั่นสะเทือนที่อาจส่งผลต่อการติดตั้งและการทำงานของสายไฟในสภาพแวดล้อมที่มีการสั่นสะเทือนสูง เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรม, ยานยนต์, หรือเครื่องจักรที่มีการเคลื่อนไหวหรือแรงสั่นสะเทือนบ่อยครั้ง การใช้ช่วยยึดสายไฟให้มั่นคงและปลอดภัยจากการเคลื่อนที่ ซึ่งสามารถช่วยป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การหลุดของสายไฟหรือการเกิดความเสียหายกับระบบไฟฟ้า
2.1 สแตนเลส (Stainless Steel)
สแตนเลส 304: เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนจากความชื้นทั่วไป มีความนิยมสูงในงานที่ไม่ต้องสัมผัสกับสารเคมีรุนแรงหรือสภาพแวดล้อมที่มีความเค็มสูง ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น ๆ เนื่องจากมีการผลิตที่ง่ายและวัสดุที่ใช้มีราคาต่ำกว่า
สแตนเลส 316: มีส่วนผสมของโมลิบดีนัม (Mo) ซึ่งทำให้ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเลและสารเคมีรุนแรง เช่น กรดหรือด่าง ราคา: ราคาสูงกว่า 304 เนื่องจากวัสดุที่ใช้และกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนกว่า
2.2 ทองเหลือง (Brass) ทองเหลืองมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน และเหมาะสำหรับใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความต้านทานต่อการกัดกร่อนที่สูง ราคา: ราคาสูงกว่าสแตนเลส 304 เนื่องจากทองเหลืองมีต้นทุนที่สูงกว่าและการผลิตที่ซับซ้อนมากขึ้น
2.3 พลาสติก (Plastic) PA66 (Polyamide 66): วัสดุพลาสติกที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและอุณหภูมิสูง ใช้ในที่ต้องการน้ำหนักเบาและมีความทนทานต่อการกัดกร่อนในบางสภาพแวดล้อมราคา: ราคาถูกกว่าโลหะ เช่น สแตนเลสหรือทองเหลือง เพราะการผลิตง่ายกว่าและมีต้นทุนวัสดุต่ำ
การเชื่อมต่อสายไฟหรือสายเคเบิลเข้ากับกล่องไฟฟ้า
การเชื่อมต่อสายไฟหรือสายเคเบิลเข้ากับ กล่องไฟฟ้า เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการติดตั้งระบบไฟฟ้า เพื่อให้การไหลของกระแสไฟฟ้ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยการเชื่อมต่อนี้จำเป็นต้องใช้ ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่น รวมถึงการยึดเกาะสายไฟให้มั่นคงในการติดตั้ง ขั้นตอนการเชื่อมต่อ:
- เลือกขนาดและประเภทของ Cable Gland โลหะสแตนเลส ที่เหมาะสม: ควรเลือกที่ตรงกับขนาดและประเภทเกลียวของสายไฟ เช่น Metric, PG หรือ NPT ตามประเภทของกล่องไฟฟ้าเลือกวัสดุที่เหมาะสม เช่น สแตนเลส สำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อนหรือในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
- เตรียมกล่องไฟฟ้า: ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากล่องไฟฟ้ามีช่องสำหรับติดตั้ง ที่มีขนาดเหมาะสมทำความสะอาดช่องติดตั้งเพื่อให้การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างเรียบร้อย
- ติดตั้งเคเบิ้ลแกลน: สวมเข้าไปในช่องของกล่องไฟฟ้า แล้วหมุนให้แน่น หากใช้ เกลียว ควรหมุนเกลียวให้มั่นคงเพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่น เคเบิ้ลแกลน
- ใส่สายไฟ: หลังจากติดตั้ง Cable Gland เข้ากับกล่องไฟฟ้าแล้ว ให้ใส่สายไฟผ่านท่อหรือช่องที่เตรียมไว้ใช้ คีย์แรงบิด หรือเครื่องมือที่เหมาะสมในการยึดสายไฟให้แน่น โดยการหมุนเพื่อให้การยึดเกาะมั่นคงและป้องกันไม่ให้สายไฟหลุด
- ทดสอบการเชื่อมต่อ:ทดสอบการเชื่อมต่อและการป้องกันการรั่วซึม โดยตรวจสอบว่าไม่มีน้ำหรือฝุ่นเข้ามาภายในกล่องไฟฟ้าตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีการหลวมของหรือการเสียหายใด ๆ ที่อาจทำให้เกิดการขัดข้องในระบบไฟฟ้า
ผลงานสินค้าและบริการของเรา
ข้อดีของการใช้ Cable Gland โลหะในการเชื่อมต่อสายไฟ
- ป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่น มีการออกแบบที่ช่วยป้องกันน้ำ ฝุ่น และสิ่งสกปรกจากการเข้าสู่กล่องไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือฝุ่นละออง เช่น ในพื้นที่กลางแจ้งหรือในอุตสาหกรรมที่ต้องเผชิญกับสารเคมี
- การยึดเกาะสายไฟที่มั่นคง ช่วยให้การยึดสายไฟในตำแหน่งที่ถูกต้องและมั่นคง ลดความเสี่ยงที่สายไฟจะหลุดออกจากการสั่นสะเทือนหรือแรงดึง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า
- ป้องกันการกัดกร่อน สำหรับสภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อน เช่น น้ำเค็มหรือสารเคมี Cable Gland ที่ทำจากวัสดุสแตนเลสหรือโลหะทนทานสามารถป้องกันการกัดกร่อนจากสารเคมีหรือการสัมผัสกับน้ำเค็ม ทำให้เพิ่มอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้า
- สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงและต่ำ บางประเภทออกแบบมาเพื่อรองรับอุณหภูมิสูงหรือต่ำ ซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น พื้นที่กลางแจ้งหรือในอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิสูง
- ลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจร ช่วยป้องกันการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ภายนอก ลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือการทำงานผิดพลาดของระบบไฟฟ้า
- ติดตั้งง่ายและรวดเร็วการติดตั้งมีขั้นตอนที่ง่ายและสะดวก ช่วยประหยัดเวลาในการติดตั้งในงานอุตสาหกรรมและงานไฟฟ้า ทำให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ปรับใช้งานได้หลากหลาย สามารถใช้ได้กับหลายประเภทของสายไฟและเคเบิล ทั้งสายไฟขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมถึงการใช้งานในหลายประเภทของกล่องไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานที่หลากหลาย
สอบถามและปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าได้โดยตรง
บริการนำเข้าทางเครื่องบิน (Air Freight)
มีสต็อกพร้อมส่งในประเทศ รองรับการใช้งานได้ทันที
✅ จัดส่งได้ทันทีภายใน 1–2 วันทำการ
✅ ปริมณฑล และต่างจังหวัด 2-3 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการขนส่งเอกชน) **สามารถระบุได้
สั่งผลิตตามขนาดและความต้องการใช้งานได้
✅เลือกขนาดได้อิสระ: กำหนด ความกว้าง x ความสูง x ความลึก ตามพื้นที่ใช้งาน