cable gland ทองเหลือง
Cable Gland ทองเหลือง คือ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับ ยึด รัด และป้องกันสายไฟหรือสายเคเบิล เพื่อให้เชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างมั่นคง แข็งแรง และปลอดภัย ตัววัสดุทำจาก ทองเหลือง (Brass) ซึ่งมีความแข็งแรงสูง ทนต่อแรงกระแทก ผ่านกระบวนการ ชุบนิกเกิล (Nickel-Plated) จะยิ่งเพิ่มความสามารถในการทนต่อการกัดกร่อน สนิม และการสัมผัสกับสารเคมีได้ดี ติดตั้งกับตู้ควบคุมไฟฟ้า, ตู้กันน้ำ, หรือเครื่องจักรอุตสาหกรรมต่าง ๆ
สินค้าแนะนำและใกล้เคียง
การเคลือบนิกเกิล cable gland ทองเหลือง
เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการทำเคเบิ้ลแกลน เพราะ การเคลือบนิกเกิล นอกจากจะช่วยเพิ่มความสามารถในการ ป้องกันการกัดกร่อน และ เพิ่มความทนทานต่อสภาพแวดล้อมรุนแรง แล้ว ยังทำให้ตัวเคเบิ้ลแกลนมี ผิวที่มันวาว เรียบเนียน ส่งผลให้งานติดตั้งดู เป็นระเบียบ เรียบร้อย และสวยงาม เพิ่มความประทับใจในงานติดตั้งทั้งภายในอาคารและกลางแจ้ง รวมถึงช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพของผู้ติดตั้งได้อีกด้วย
รายละเอียดสินค้าและราคา
สินค้าและบทความใกล้เคียง
เคเบิ้ลแกลนทองเหลืองชุบนิกเกิล
ผลิตจาก ทองเหลืองเคลือบนิกเกิล ยังมี ความแข็งแรงเชิงกลสูง ทนต่อแรงกระแทก และไม่แตกหักง่ายเมื่อถูกแรงบิดหรือแรงดึง เหมาะสำหรับงานติดตั้งที่ต้องการความทนทานในระยะยาว เช่น ระบบเดินสายไฟในโรงงานอุตสาหกรรม, อาคารพาณิชย์, หรือพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับการสั่นสะเทือนหรือการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือความชื้นสูง ทำให้เคเบิ้ลแกลนประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหลายอุตสาหกรรม
ตารางการเลือกขนาดที่เหมาะสมกับสายไฟ
| (Outer Diameter) | (Cable Gland Size) | ข้อควรระวัง |
|---|---|---|
| 4-6 มม. | M12, PG9 | เลือกขนาดที่พอดีเพื่อป้องกันการรั่วซึม |
| 6-10 มม. | M16, PG11 | หลีกเลี่ยงขนาดที่หลวมเกินไป |
| 10-14 มม. | M20, PG13.5 | เลือกให้มีพื้นที่เล็กน้อยสำหรับการยืดตัวของสายไฟ |
| 14-18 มม. | M25, PG16 | ต้องแน่ใจว่ารัดแน่นและไม่หลวม |
| 18-22 มม. | M32, PG21 | พิจารณาภาระการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ |
| 22-30 มม. | M40, PG29 | เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงสูง |
วัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟ (Outer Diameter): ใช้อุปกรณ์วัดขนาดให้แม่นยำ เพื่อเลือกขนาดเคเบิ้ลแกลนที่ตรงกับสายไฟได้พอดี
เลือกขนาดรูภายใน (Inner Diameter): ควรมีขนาดพอดีกับเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟ ไม่แน่นหรือหลวมเกินไป เพื่อป้องกันการขยับตัวหรือการกดทับสายไฟ
เผื่อขนาดเล็กน้อยสำหรับการขยายตัว: เลือกขนาดที่มีระยะเผื่อเล็กน้อยประมาณ 5-10% เพื่อรองรับการขยายตัวของสายไฟในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ
การเลือกขนาดเคเบิ้ลแกลนที่เหมาะสม
ช่วยให้การติดตั้งมีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ขนาดที่ไม่เหมาะสมได้ ดังนี้:
ป้องกันการรั่วซึม: ขนาดพอดีจะช่วยป้องกันน้ำ, ฝุ่น หรือสารเคมีที่อาจเข้าไปในสายไฟจากภายนอกได้ ทำให้ระบบไฟฟ้ามีความปลอดภัยยิ่งขึ้น และช่วยลดการเสี่ยงจากการเกิดความเสียหายหรือไฟฟ้าลัดวงจร
เพิ่มอายุการใช้งานของระบบ: การเลือกขนาดที่พอดีจะทำให้การติดตั้งมั่นคงและไม่เกิดความตึงเครียดกับสายไฟ ส่งผลให้ระบบไฟฟ้ามีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น เนื่องจากลดความเสี่ยงของการเสื่อมสภาพหรือการชำรุดของวัสดุ
ป้องกันการเคลื่อนที่ของสายไฟ: ขนาดที่พอดียังช่วยให้สายไฟไม่ขยับหรือเคลื่อนที่ระหว่างการใช้งาน ลดการสึกหรอที่อาจเกิดขึ้น
การเลือกขนาด cable gland ทองเหลืองที่ไม่เหมาะสม
ขนาดที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลเสียต่อการติดตั้งและประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้าได้ หากขนาดเคเบิ้ลแกลนแน่นเกินไปหรือหลวมเกินไปจะมีผลดังนี้:
ขนาดแน่นเกินไป: เมื่อเลือกขนาดที่เล็กเกินไป สายไฟอาจไม่สามารถติดตั้งได้ หรือเกิดความตึงเครียดกับสายไฟ ซึ่งอาจทำให้สายไฟขาด, ฉีกขาด หรือเกิดความเสียหายภายใน โดยไม่สามารถป้องกันน้ำหรือฝุ่นได้เต็มที่ เคเบิ้ลแกลน
ขนาดหลวมเกินไป: หากเลือกขนาดที่ใหญ่เกินไป สายไฟอาจไม่มั่นคง ทำให้เกิดการเคลื่อนที่หรือการขยับของสายไฟ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดการลัดวงจร, สายไฟชำรุด หรือการสั่นสะเทือนที่อาจทำให้เกิดปัญหาในระบบไฟฟ้าได้
ความสำคัญและการเลือกใช้งาน
เคเบิ้ลแกลนเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยยึดและป้องกันสายไฟให้มั่นคง ปลอดภัย และเป็นระเบียบ ลดความเสี่ยงจากฝุ่น น้ำ และแรงดึงที่อาจทำให้สายไฟเสียหาย การเลือกใช้ให้เหมาะสมกับประเภทของสาย วัสดุ และสภาพแวดล้อมจึงมีความสำคัญ เช่น งานทั่วไปควรใช้พลาสติก PA66 ส่วนงานใกล้ทะเลหรือในอุตสาหกรรมเคมีควรใช้แบบสแตนเลสหรือทองเหลืองชุบนิกเกิล นอกจากนี้ยังควรเลือกเกลียวให้ตรงกับอุปกรณ์ เช่น PG, M หรือ NPT เพื่อให้ติดตั้งได้อย่างพอดีและปลอดภัย โดยมีความสำคัญดังนี้:
New series
2025
การป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่น: สามารถป้องกันน้ำและฝุ่นจากภายนอกที่อาจเข้าสู่การเชื่อมต่อของสายไฟ ซึ่งอาจทำให้เกิดการลัดวงจรหรือเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า โดยที่มีมาตรฐาน IP68 จะป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ป้องกันการกัดกร่อน: ผลิตจากวัสดุทนทาน เช่น สแตนเลสเกรด 304 หรือทองเหลืองชุบนิกเกิล มีความสามารถในการทนต่อการกัดกร่อนจากความชื้น น้ำทะเล หรือสารเคมีต่าง ๆ ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าในสภาพแวดล้อมที่มีความรุนแรง
ลดความเสี่ยงจากการเคลื่อนที่ของสายไฟ: การใช้ยึดสายไฟให้แน่นและไม่เคลื่อนที่ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดความเสียหายที่อาจเกิดจากการดึงหรือการเคลื่อนที่ของสายไฟ ที่อาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือปัญหาทางไฟฟ้าอื่น ๆ
การป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิต: บางประเภทมีคุณสมบัติในการป้องกันไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Discharge) ซึ่งสามารถช่วยลดปัญหาจากสัญญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้า (EMC) ที่อาจเกิดขึ้นได้ในบางสภาพแวดล้อม
การติดตั้งที่ปลอดภัยและสะดวก: ช่วยให้งานติดตั้งระบบไฟฟ้าง่ายและปลอดภัย เพราะมันช่วยยึดสายไฟให้มั่นคงและไม่ขยับระหว่างการติดตั้งหรือใช้งานจริง ลดความเสี่ยงจากการบิดพันหรือการขัดข้องของระบบไฟฟ้า
- เหมาะสำหรับหลากหลายอุตสาหกรรม: มีความสำคัญในหลายสาขา เช่น อุตสาหกรรมเคมี, พลังงาน, อุตสาหกรรมอาหาร, เครื่องจักรระบบอัตโนมัติ, การขนส่ง และการไฟฟ้า โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากการเกิดระเบิดหรือสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมีเป็นส่วนประกอบ
วิธีเลือกขนาด cable gland ทองเหลืองให้เหมาะกับสายไฟ
การเลือกขนาดให้พอดีกับสายไฟเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การติดตั้งมีความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้า โดยต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น วัดเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟ (Outer Diameter) เพื่อเลือกขนาดที่เหมาะสม พิจารณาขนาดรูภายในของ cable gland ให้ตรงกับสายไฟและต้องเผื่อขนาดเล็กน้อยเพื่อรองรับการขยายตัวของสายไฟในอนาคต นอกจากนี้ยังต้องเลือกซีลยางที่มีความยืดหยุ่นเพื่อป้องกันน้ำและฝุ่น และควรตรวจสอบมาตรฐาน IP เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น IP68 สำหรับการกันน้ำและฝุ่น วิธีเลือกมีดังนี้:
วัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (Outer Diameter) ของสายไฟ: ก่อนเลือกขนาด ต้องวัดเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟด้วยเครื่องมือวัดที่แม่นยำ เช่น เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์
เปรียบเทียบกับช่วงการจับยึดของเคเบิ้ลแกลน (Clamping Range): แต่ละรุ่นของเคเบิ้ลแกลนจะระบุช่วงขนาดสายไฟที่สามารถรองรับได้ เช่น 6–12 มม., 10–14 มม. เป็นต้น
เลือกขนาดที่อยู่กลางช่วง (ไม่ชิดขอบเกินไป): เพื่อให้เคเบิ้ลแกลนสามารถยึดสายไฟได้แน่น ไม่หลวม และไม่ทำให้สายไฟเสียหายจากแรงบีบที่มากเกินไป
เลือกประเภทเกลียวที่ตรงกับอุปกรณ์: เช่น PG, M หรือ NPT และตรวจสอบว่าเกลียวสอดคล้องกับรูเจาะหรือตัวอุปกรณ์ที่ใช้งาน เคเบิ้ลแกลน
พิจารณาสภาพแวดล้อมการใช้งาน: หากใช้งานกลางแจ้ง ใกล้ทะเล หรือในสภาพแวดล้อมที่กัดกร่อน ควรเลือกทองเหลืองเคลือบนิกเกิลที่มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น เช่น IP68
หมายเหตุเพิ่มเติม
อย่าเลือกขนาดที่แน่นเกินไป: เพราะอาจทำให้สายไฟเสียหายหรือหักงอเมื่อติดตั้ง ต้องมีพื้นที่ให้สายไฟขยับตัวเล็กน้อยเพื่อรองรับการขยายตัวจากอุณหภูมิ
เลือกตามมาตรฐานอุตสาหกรรม: เช่น UL, CE, IP68 เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในการใช้งานระยะยาว
ผลงานสินค้าและบริการของเรา
พิจารณาช่วงการจับยึด (Clamping Range)
cable gland ทองเหลือง พื่อให้มั่นใจว่าเคเบิ้ลแกลนจะทำการยึดรัดสายไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยไม่ทำให้สายไฟถูกบีบรัดมากเกินไปหรือหลวมเกินไป ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการทำงานของระบบไฟฟ้า ต่อไปนี้คือตารางการเปรียบเทียบระหว่างขนาดเคเบิ้ลแกลนและช่วงการจับยึด (Clamping Range):
| ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางสายไฟ (Outer Diameter) | (Cable Gland Size) | (Clamping Range) | ข้อควรระวัง |
|---|---|---|---|
| 4-6 มม. | M12, PG9 | 4 – 6.5 มม. | ควรเลือกขนาดที่พอดีกับสายไฟเพื่อหลีกเลี่ยงการบีบรัด |
| 6-10 มม. | M16, PG11 | 6.5 – 10 มม. | การเลือกขนาดที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งาน |
| 10-14 มม. | M20, PG13.5 | 10 – 14.5 มม. | ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีช่องว่างมากเกินไป |
| 14-18 มม. | M25, PG16 | 14 – 18.5 มม. | ควรตรวจสอบเพื่อให้สายไฟไม่หลวมเกินไป |
| 18-22 มม. | M32, PG21 | 18 – 22.5 มม. | ควรหลีกเลี่ยงการเลือกขนาดที่ใหญ่เกินไป |
| 22-30 มม. | M40, PG29 | 22 – 30.5 มม. | เลือกขนาดที่สามารถจับยึดสายไฟได้แน่นหนาและปลอดภัย |
FAQ คำถามที่พบบ่อย