เมื่อต้องการติดตั้งเคเบิ้ลแกลน PG11 ให้เหมาะกับสาย ควรตรวจสอบเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟรวมถึงฉนวนด้านนอกก่อนทุกครั้ง การเลือกขนาดผิดอาจทำให้แหวนยางซีลไม่แน่น ส่งผลให้ระบบไม่สามารถกันน้ำหรือกันฝุ่นได้ตามที่ต้องการ สำหรับสายที่เล็กมาก อาจต้องเปลี่ยนไปใช้ขนาด PG7 หรือ PG9 แทน ส่วนสายที่ใหญ่กว่า 10 มม. ควรพิจารณาขนาด PG13.5 หรือ PG16 แทน นอกจากนี้ ควรใช้รุ่นที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เช่น CE หรือ RoHS เพื่อความมั่นใจในคุณภาพ และหากติดตั้งในพื้นที่เสี่ยงหรือภายนอกอาคาร ควรเลือกที่มีค่า IP สูง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในระยะยาว
เคเบิ้ลแกลน pg11
เคเบิ้ลแกลน PG11 เหมาะสำหรับสายไฟที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกอยู่ระหว่าง 5 – 10 มิลลิเมตร โดยขึ้นอยู่กับรุ่นและวัสดุของแหวนยางภายในตัวแกลนด์ ถ้าสายเล็กหรือใหญ่เกินช่วงนี้ อาจทำให้ยึดสายไม่แน่นหรือรั่วซึมได้ ควรวัดขนาดสายจริงก่อนเลือกซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าสายรัดแน่นและป้องกันฝุ่นหรือน้ำได้ตามมาตรฐาน IP68 การเลือกขนาดให้พอดีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและเพิ่มความปลอดภัยในการติดตั้ง สำหรับงานกลางแจ้งหรืออุตสาหกรรม แนะนำให้ใช้รุ่นที่ชุบนิกเกิ้ลเพื่อความทนทานยิ่งขึ้น
การเลือกขนาดผิดอาจทำให้แหวนยางซีลไม่แน่น
รายละเอียดสินค้าและราคา
การเลือกใช้เคเบิ้ลแกลน PG11 ยังควรพิจารณาวัสดุ
ควรพิจารณาวัสดุของตัวแกลนด์ด้วย เช่น ทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล ซึ่งมีความแข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อน และไม่เป็นสนิม จึงเหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือมีไอเคมี การชุบนิกเกิ้ลยังช่วยยืดอายุการใช้งานและคงประสิทธิภาพการซีลได้ดี หากต้องใช้งานร่วมกับตู้ไฟหรือกล่องควบคุมโลหะ การใช้แกลนด์ทองเหลืองจะช่วยลดปัญหาเรื่องการล้มหรือคลายเกลียวจากแรงสั่นสะเทือน นอกจากนี้ แนะนำให้ใช้พร้อมอุปกรณ์เสริม เช่น แหวนรองกันน้ำ (O-ring) และ น็อตล็อคด้านใน (Locknut) เพื่อยึดแน่นยิ่งขึ้น และให้มั่นใจว่าสายไฟจะไม่ขยับหรือหลุดจากตำแหน่งระหว่างใช้งาน
ตารางเปรียบเทียบขนาด Cable gland PG11
ขนาด PG | เส้นผ่านศูนย์กลางเกลียว (มม.) | ขนาดรูเจาะแผง (มม.) | ช่วงขนาดสายที่รองรับ (มม.) |
---|---|---|---|
PG7 | 12.5 | 12.2–12.5 | 3 – 6.5 |
PG9 | 15.2 | 14.7–15.2 | 4 – 8 |
PG11 | 18.6 | 18.2–18.6 | 5 – 10 |
PG13.5 | 20.4 | 20.0–20.4 | 6 – 12 |
PG16 | 22.5 | 22.0–22.5 | 10 – 14 |
PG21 | 28.3 | 27.8–28.3 | 13 – 18 |
PG29 | 37.0 | 36.5–37.0 | 18 – 25 |
✅ แข็งแรงและทนทานสูง จากวัสดุทองเหลืองแท้
✅ กันน้ำ กันฝุ่น ด้วยค่าป้องกัน IP สูง เช่น IP68
✅ ใช้งานได้หลากหลายสภาพแวดล้อม ทั้งภายในอาคารและกลางแจ้ง
✅ รองรับแรงดึงสายได้ดี ป้องกันการหลุดหรือเสียบสายผิดตำแหน่ง
✅ ไม่เป็นสนิม จากการชุบนิกเกิ้ล เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น หรือสารเคมี
วิธีวัดขนาดสายไฟ
เตรียมเครื่องมือวัด
ใช้เวอร์เนียร์คาลิเปอร์หรือไม้บรรทัดที่มีความแม่นยำสูงวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก
วัดที่ฉนวนหุ้มสายไฟ ไม่ใช่แค่ตัวนำด้านใน เพราะ เคเบิ้ลแกลน ต้องรัดที่ฉนวนภายนอกเพื่อกันน้ำและฝุ่นวัดหลายจุดรอบสาย
เพื่อความแม่นยำ ควรวัดเส้นผ่านศูนย์กลางรอบสายในหลาย ๆ จุด เช่น 3-4 จุด แล้วหาค่าเฉลี่ยตรวจสอบขนาดสายที่วัดได้
เปรียบเทียบขนาดสายไฟที่วัดกับช่วงขนาดสายที่ รองรับ (ประมาณ 5-10 มม.)
ข้อดีของเคเบิ้ลแกลนด์ทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล
ความแข็งแรงและทนทานสูง มีความแข็งแรงสูง สามารถรับแรงกระแทก แรงดึง และแรงสั่นสะเทือนได้ดี เหมาะกับงานอุตสาหกรรมที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง
ทนต่อการกัดกร่อนและสนิม การชุบนิกเกิ้ลช่วยเพิ่มความต้านทานต่อการกัดกร่อนและการเกิดสนิม แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น สารเคมี หรือไอทะเล ทำให้ใช้งานได้นานขึ้น
ป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP ช่วยให้ระบบไฟฟ้ากันน้ำและฝุ่นได้ดี โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับแหวนยางซีล ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า
- ยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายบำรุงรักษา ด้วยวัสดุที่ทนทานและป้องกันสนิมได้ดี จึงช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดความถี่ในการเปลี่ยนหรือซ่อมแซม ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
ความน่าเชื่อถือของเคเบิ้ลแกลน pg11
เหมาะสำหรับสายไฟที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-10 มิลลิเมตร ทำให้เป็นขนาดยอดนิยมสำหรับงานทั่วไปในโรงงานและตู้ควบคุมไฟฟ้า การเลือกขนาดที่พอดีกับสายไฟสำคัญมาก เพราะหากเล็กเกินไปสายจะใส่ไม่ได้ หรือถ้าใหญ่เกินไปแหวนยางจะรัดไม่แน่น ส่งผลให้ระบบไม่สามารถกันน้ำและฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP การเลือกขนาดพอดีช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วัสดุคุณภาพสูง ผลิตจากทองเหลืองชุบนิกเกิ้ลหรือพลาสติกวิศวกรรมที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก และทนต่อการกัดกร่อน ทำให้มั่นใจในความแข็งแรงและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น (IP67/IP68) ผ่านการทดสอบและได้รับมาตรฐาน IP67 หรือ IP68 ซึ่งรับประกันว่าสามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้ดี เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือต้องติดตั้งกลางแจ้ง
การติดตั้งที่แม่นยำและแน่นหนา ออกแบบให้สามารถรัดสายไฟขนาด 5-10 มม. ได้พอดี ทำให้ลดโอกาสการรั่วซึมหรือสายไฟหลวม เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน และลดความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจร
ความทนทานต่อแรงดึงและแรงสั่นสะเทือน มีโครงสร้างที่แข็งแรง สามารถทนแรงดึงและแรงสั่นสะเทือนจากการใช้งานในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมหนัก ช่วยปกป้องสายไฟไม่ให้เสียหาย
ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล สินค้าหลายรุ่นของ Cable gland PG11 ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล เช่น CE หรือ RoHS ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน
การติดตั้งเคเบิ้ลแกลน PG11 อย่างถูกวิธี
การติดตั้งอย่างถูกวิธีจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความทนทานของระบบไฟฟ้า ควรขันเกลียวให้แน่นพอดี ไม่บีบรัดสายจนเกินไป และตรวจสอบการซีลของแหวนยางอย่างสม่ำเสมอ หากใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น มีน้ำหรือฝุ่นมาก ควรเลือกที่ได้รับมาตรฐานกันน้ำระดับ IP67 หรือ IP68 เพื่อป้องกันความเสียหาย และยังช่วยลดการซ่อมบำรุงในระยะยาว การเลือกที่เหมาะสมกับสายไฟและสภาพแวดล้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ระบบไฟฟ้าของคุณทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ
ตรวจสอบขนาดรูเจาะและสายไฟ วัดขนาดรูเจาะบนแผงหรือกล่องควบคุมให้ตรงกับขนาด PG11 (ประมาณ 18.5 มม.) และตรวจสอบเส้นผ่านศูนย์กลางสายไฟให้เหมาะสมกับช่วง 5–10 มม. เพื่อให้แกลนด์ล็อคได้แน่น
ติดตั้งแหวนยางซีล (O-ring) อย่างถูกต้อง ใส่แหวนยางซีลในตำแหน่งที่กำหนด เพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นเข้าในระบบไฟฟ้า ตรวจสอบให้แหวนไม่เสียหายหรือบิดเบี้ยวก่อนติดตั้ง
ขันเกลียวให้แน่นพอดี เมื่อใส่ เคเบิ้ลแกลน ผ่านรูเจาะแล้ว ให้ขันเกลียวจนแน่น แต่ไม่ควรขันแน่นเกินไปจนทำให้ตัวแกลนด์หรือสายไฟเสียหาย
ใช้ Locknut หรือแหวนล็อคยึดด้านใน เมื่อติดตั้งแกลนด์ผ่านแผง ควรใช้ Locknut ด้านในเพื่อยึดให้แน่น ไม่ให้ตัวแกลนด์คลายตัวจากแรงสั่นสะเทือนหรือแรงดึง
ตรวจสอบการซีลและความแน่นหลังติดตั้ง หลังติดตั้งเสร็จ ให้ตรวจสอบว่าตัวแกลนด์รัดสายแน่นและไม่มีช่องว่างที่น้ำหรือฝุ่นสามารถเล็ดลอดเข้าไปได้ เพื่อให้ได้มาตรฐาน IP ที่ต้องการ เช่น IP67 หรือ IP68
ผลงานสินค้าและบริการของเรา
เคเบิ้ลแกลน PG11 ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน CE และ RoHS
การเลือกใช้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน CE และ RoHS เป็นสิ่งสำคัญสำหรับงานไฟฟ้าและอุตสาหกรรม เนื่องจากมาตรฐานเหล่านี้ช่วยรับประกันคุณภาพ ความปลอดภัย และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของสินค้า
มาตรฐาน CE คืออะไร?
เครื่องหมาย CE แสดงว่าสินค้าผ่านการทดสอบและเป็นไปตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรป (EU) ในด้านความปลอดภัย สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งหมายความว่ามีเครื่องหมายนี้มีความปลอดภัยในการใช้งานและได้มาตรฐานสากล
มาตรฐาน RoHS คืออะไร?
RoHS (Restriction of Hazardous Substances) คือข้อบังคับที่จำกัดการใช้สารอันตราย เช่น ตะกั่ว ปรอท และสารพิษอื่น ๆ ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้า การเลือกที่ผ่านมาตรฐาน RoHS ช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ข้อดีของการเลือก Cable gland ที่ได้รับการรับรอง
ความปลอดภัยสูง ลดความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจรและอุบัติเหตุ
คุณภาพวัสดุที่ได้มาตรฐาน ทนทานต่อการใช้งานและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดสารพิษที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์และธรรมชาติ
มั่นใจได้ในความน่าเชื่อถือ เหมาะกับงานอุตสาหกรรมและการใช้งานในระดับมืออาชี
FAQ คำถามที่พบบ่อย
สอบถามและปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าได้โดยตรง
หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สินค้าและบริการ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดสินค้าเชิงเทคนิค การเลือกขนาดที่เหมาะสม หรือคำแนะนำในการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทีมงานของเรายินดีให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ
เราพร้อมช่วยคุณ สามารถติดต่อเราผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์, อีเมล, หรือแชทออนไลน์ ทีมงานยินดีตอบทุกคำถาม เพื่อให้คุณมั่นใจในสินค้าที่เลือกใช้สินค้าและบริการ ติดต่อเรา ☑
บริการนำเข้าทางเครื่องบิน (Air Freight)
หากลูกค้ามีความต้องการใช้ สินค้าที่ผลิตจากต่างประเทศหรือสินค้าอื่น ๆ แบบเร่งด่วน ทางเรามีบริการจัดหาและนำเข้าสินค้าด้วยวิธีการขนส่งทางอากาศ (Air Freight) เพื่อให้สามารถจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วและตรงตามกำหนดเวลาการใช้งานของคุณ ระยะเวลาการจัดส่งรวดเร็ว: โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 3–7 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับประเทศต้นทางและสายการบินที่ให้บริการ) ติดต่อเรา ☑
มีสต็อกพร้อมส่งในประเทศ รองรับการใช้งานได้ทันที
เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เราได้ จัดเก็บสต็อกสินค้าเคเบิ้ลแกลนและอุปกรณ์อื่น ๆ ไว้ภายในประเทศ เป็นจำนวนมากและครอบคลุมหลายขนาด เพื่อให้สามารถจัดส่งได้อย่างรวดเร็วและรองรับทุกความต้องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่
✅ จัดส่งได้ทันทีภายใน 1–2 วันทำการ
✅ ปริมณฑล และต่างจังหวัด 2-3 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการขนส่งเอกชน) **สามารถระบุได้
✅ จัดส่งได้ทันทีภายใน 1–2 วันทำการ
✅ ปริมณฑล และต่างจังหวัด 2-3 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการขนส่งเอกชน) **สามารถระบุได้
สั่งผลิตตามขนาดและความต้องการใช้งานได้
เรามีบริการ ออกแบบและสั่งผลิตตู้ไฟฟ้าสแตนเลส (Stainless Steel Electrical Enclosure) ตามขนาดและรูปแบบที่ลูกค้าต้องการ เพื่อให้ตรงกับหน้างานจริงและเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานเฉพาะด้านของแต่ละอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นงานในพื้นที่กลางแจ้ง, พื้นที่เปียกชื้น, โรงงานอาหาร, เคมีภัณฑ์ หรืออุตสาหกรรมหนัก
✅เลือกขนาดได้อิสระ: กำหนด ความกว้าง x ความสูง x ความลึก ตามพื้นที่ใช้งาน
✅เลือกขนาดได้อิสระ: กำหนด ความกว้าง x ความสูง x ความลึก ตามพื้นที่ใช้งาน