เคเบิ้ลแกลน pg13.5 | สแตนเลส
เคเบิ้ลแกลน PG13.5 | สแตนเลส คือ อุปกรณ์ยึดจับและป้องกันสายไฟหรือสายเคเบิ้ลที่สอดผ่านผนังตู้ไฟ กล่องควบคุม หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ โดย “PG13.5” เป็นรหัสบอกขนาดเกลียวตามมาตรฐาน DIN (Panzer-Gewinde) ของเยอรมัน วัสดุสแตนเลสที่ใช้ (เช่น 304 หรือ 316) มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น ฝุ่น หรือสารเคมี คุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 เพิ่มความปลอดภัย ใช้งานร่วมกับตู้ไฟฟ้าในโรงงาน อุตสาหกรรม อุปกรณ์กลางแจ้ง หรือแม้แต่พื้นที่ใกล้ทะเล
ขนาดสายไฟที่เหมาะสมกับเคเบิ้ลแกลน PG13.5
PG13.5 ถูกออกแบบให้รองรับสายไฟที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (Outer Diameter) ประมาณ 6 มม. ถึง 11 มม. ซึ่งครอบคลุมสายไฟขนาดกลางที่ใช้ในงานไฟฟ้าทั่วไป ทั้งภายในอาคารและในงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสายไฟประเภท NYL, NYM, หรือ สายควบคุม (control cable)
รายละเอียดสินค้าและราคา
การเลือกเคเบิ้ลแกลนด์ให้เหมาะกับสายไฟ
ควรเริ่มจากการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟ เพื่อเลือกขนาดรูใน (Clamping Range) ให้พอดี ไม่แน่นหรือหลวมเกินไป ควรเลือกวัสดุให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม เช่น สแตนเลสสำหรับงานกลางแจ้งหรือพื้นที่เปียก หากต้องการกันน้ำหรือฝุ่น ควรเลือกที่มีระดับ IP68 และใช้ซีลคุณภาพสูง เลือกประเภทเกลียว (เช่น PG, M, NPT) ให้ตรงกับตู้หรืออุปกรณ์ติดตั้ง เพื่อให้ขันแน่นได้อย่างปลอดภัย และอย่าลืมตรวจสอบความยาวเกลียวให้เหมาะกับความหนาของแผงที่ติดตั้ง.
ตารางเปรียบเทียบเคเบิ้ลแกลน PG13.5 กับ M และ NPT
รายการเปรียบเทียบ | PG13.5 | M16 (ใกล้เคียง) | NPT 3/8″ (ใกล้เคียง) |
---|---|---|---|
มาตรฐานการผลิตเกลียว | DIN 40430 (เยอรมัน) | ISO Metric (สากล) | ANSI/ASME B1.20.1 (อเมริกา) |
ขนาดเกลียวภายนอก (OD) | ~20.4 มม. | 16 มม. | ~17.1 มม. (NPT 3/8″) |
ลักษณะเกลียว | แบบเหลี่ยมลึก (Coarse) | แบบละเอียด (Fine) | แบบเรียว (Tapered Thread) |
การใช้งานหลัก | งานทั่วไปในยุโรปและเอเชีย | งานสากล ทั่วโลก | งานในสหรัฐอเมริกา/อุตสาหกรรมน้ำมัน |
ความง่ายในการหาชิ้นส่วน | มีจำหน่ายในเอเชียมาก | หาอะไหล่ได้ทั่วไป | ต้องใช้กับอุปกรณ์ NPT โดยเฉพาะ |
การป้องกันน้ำฝุ่น (IP) | ขึ้นกับซีลและรุ่น (สูงสุด IP68) | ขึ้นกับซีลและรุ่น (สูงสุด IP68) | อาจต้องใช้เทปพันเกลียวเพิ่ม |
เลือกแบบไหนดี?
✅ PG13.5 → เหมาะกับงานในไทยหรือเอเชีย ที่ใช้มาตรฐาน DIN เป็นหลัก เช่น ตู้ควบคุมไฟฟ้าแบรนด์ยุโรป
✅ M16 → หากคุณต้องการความเข้ากันกับอุปกรณ์ใหม่ หรือระบบที่ใช้ขนาดเมตริกแบบสากล
✅ NPT 3/8” → สำหรับงานอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซ หรือในประเทศที่ใช้ระบบอเมริกัน
คุณสมบัติเพิ่มเติมที่โดดเด่นของเคเบิ้ลแกลน PG13.5
- ทนการกัดกร่อนสูง ด้วยวัสดุ สแตนเลส 304 หรือ 316 สามารถต้านทานสนิมและการกัดกร่อนจากความชื้น ฝุ่น น้ำเค็ม และสารเคมีได้ดีเยี่ยมเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานในพื้นที่ริมทะเล โรงงานเคมี หรือพื้นที่ที่ล้างทำความสะอาดบ่อย
- กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 เมื่อติดตั้งร่วมกับซีลยางคุณภาพ เคเบิ้ลแกลน PG13.5 สามารถกันน้ำได้ถึงระดับ IP68 ป้องกันน้ำและฝุ่นเข้าสู่ตู้ควบคุมหรือตัวอุปกรณ์ ทำให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้เสถียร
- ป้องกันแรงดึงสาย (Strain Relief) ออกแบบให้รัดสายไฟแน่นหนา ช่วยลดแรงตึงที่อาจดึงกระชากเข้าสู่อุปกรณ์ไฟฟ้า ช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟและป้องกันความเสียหายจากการใช้งานจริง
- ทนต่ออุณหภูมิสูงและต่ำ PG13.5 สแตนเลส รองรับอุณหภูมิประมาณ -40°C ถึง +100°C หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับซีลที่ใช
การเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงาน
Cable gland PG13.5 สแตนเลส เป็นรุ่นยอดนิยมที่รองรับสายไฟขนาดกลาง โดยเฉพาะในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความแข็งแรง ทนทาน และป้องกันการรั่วซึมของน้ำหรือฝุ่น เหมาะอย่างยิ่งกับงานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น ความร้อน หรือสารเคมี เช่น:
ระบบตู้ควบคุมไฟฟ้าในโรงงาน
งานติดตั้งในเรือหรืออุตสาหกรรมทะเล
ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar)
โรงงานอาหาร เครื่องดื่ม หรือเภสัชกรรม (เลือกใช้เกรด 316)
✅ เลือกรุ่นเกลียวให้ตรงกับอุปกรณ์: เช่น PG, M หรือ NPT — หากเกลียวไม่ตรง อาจต้องใช้ตัวแปลง
ตรวจสอบการรับประกันและการรับรองมาตรฐาน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเลือกมีการรับรองจากหน่วยงานมาตรฐาน เช่น CE, UL, IEC หรือ RoHS ซึ่งจะช่วยยืนยันว่าผ่านการทดสอบและมีคุณสมบัติที่รับรองความปลอดภัยและความทนทานในระยะยาว รวมถึงช่วยให้มั่นใจว่าการใช้งานเป็นไปตามข้อกำหนดทางเทคนิคที่รับรอง
2.1 สแตนเลส (Stainless Steel)
สแตนเลส 304: เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนจากความชื้นทั่วไป มีความนิยมสูงในงานที่ไม่ต้องสัมผัสกับสารเคมีรุนแรงหรือสภาพแวดล้อมที่มีความเค็มสูง ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น ๆ เนื่องจากมีการผลิตที่ง่ายและวัสดุที่ใช้มีราคาต่ำกว่า
สแตนเลส 316: มีส่วนผสมของโมลิบดีนัม (Mo) ซึ่งทำให้ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเลและสารเคมีรุนแรง เช่น กรดหรือด่าง ราคา: ราคาสูงกว่า 304 เนื่องจากวัสดุที่ใช้และกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนกว่า
2.2 ทองเหลือง (Brass) ทองเหลืองมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน และเหมาะสำหรับใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความต้านทานต่อการกัดกร่อนที่สูง ราคา: ราคาสูงกว่าสแตนเลส 304 เนื่องจากทองเหลืองมีต้นทุนที่สูงกว่าและการผลิตที่ซับซ้อนมากขึ้น
2.3 พลาสติก (Plastic) PA66 (Polyamide 66): วัสดุพลาสติกที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและอุณหภูมิสูง ใช้ในที่ต้องการน้ำหนักเบาและมีความทนทานต่อการกัดกร่อนในบางสภาพแวดล้อมราคา: ราคาถูกกว่าโลหะ เช่น สแตนเลสหรือทองเหลือง เพราะการผลิตง่ายกว่าและมีต้นทุนวัสดุต่ำ
ประเภทของเคเบิ้ลแกลน PG13.5 สายไฟที่จะใช้งาน
ควรพิจารณา ประเภทของสายไฟ ที่จะใช้งาน เช่น สายไฟที่มีฉนวนหุ้มยางหรือโลหะ เพราะบางประเภทสายไฟอาจต้องการการรัดที่แน่นขึ้นเพื่อป้องกันการหลุดจากการใช้งานระยะยาว หากใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือความร้อนสูง ควรเลือกเคเบิ้ลแกลนด์ที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและอุณหภูมิสูง เช่น สแตนเลส 316 หรือวัสดุพลาสติกที่มีคุณสมบัติทนความร้อน หากเป็นงานที่ต้องการการป้องกันระดับสูง ควรเลือกซีลยางที่มีคุณภาพ เพื่อให้สามารถทนทานต่อการรั่วซึมของน้ำหรือฝุ่นได้ดี.
ขนาดของสายไฟ (Cable Size) ขนาดรูใน (Clamping Range) พอดีกับเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟ เพื่อให้สายไฟไม่หลวมเกินไปหรือแน่นเกินไป ซึ่งอาจทำให้การติดตั้งไม่ปลอดภัยหรือทำให้การใช้งานมีปัญหา
วัสดุของเคเบิ้ลแกลน (Material) เลือกวัสดุที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เช่น สแตนเลส สำหรับงานที่ต้องทนความชื้นหรือสารเคมี หรือ พลาสติก เช่น PA66 สำหรับงานที่ต้องการน้ำหนักเบาและราคาประหยัด คำนึงถึงการทนทานต่อการกัดกร่อน ความร้อน และ UV
ประเภทเกลียว (Thread Type) เลือกประเภทเกลียวให้ตรงกับอุปกรณ์ที่ต้องติดตั้ง เช่น PG, M, หรือ NPT ขึ้นอยู่กับระบบการติดตั้งที่มีในอุปกรณ์หรือเครื่องจักร เพื่อให้การติดตั้งรัดสายไฟได้อย่างมั่นคง
การป้องกันน้ำและฝุ่น (IP Rating) หากติดตั้งในพื้นที่ที่มีความชื้นหรืออาจเกิดการรั่วซึมของน้ำ ควรเลือกที่มีระดับการป้องกันน้ำฝุ่นสูง เช่น IP67 หรือ IP68 โดยเลือกซีลที่มีคุณภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำหรือฝุ่น
การทนทานต่ออุณหภูมิ (Temperature Resistance) คำนึงถึงอุณหภูมิที่อุปกรณ์หรือสายไฟจะต้องเผชิญในระหว่างการทำงาน เช่น สายไฟที่ใช้ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง ควรเลือกที่ทนทานต่ออุณหภูมิสูงได้ เพื่อยืดอายุการใช้งานและป้องกันความเสียหายจากการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ร้อนเกินไป
ผลงานสินค้าและบริการของเรา
วิธีเลือกเคเบิ้ลแกลน PG13.5 ที่เหมาะสมกับสายไฟในแต่ละประเภท
การเลือกที่เหมาะสมกับ สายไฟ ในแต่ละประเภทมีขั้นตอนที่ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เพื่อให้การติดตั้งมีความปลอดภัยและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ต่อไปนี้คือวิธีการเลือกที่เหมาะสม:
1. เลือกขนาดให้ตรงกับขนาดสายไฟ ก่อนเลือก Cable gland ควรตรวจสอบขนาดของสายไฟ โดยวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสาย (Outer Diameter) แล้วเลือก Cable gland ที่มี Clamping Range หรือขนาดรูในที่รองรับขนาดสายไฟนั้น ๆ ได้พอดี เพื่อให้การรัดสายไฟมีความมั่นคง ไม่หลวมเกินไปหรือแน่นเกินไป
2. เลือกวัสดุ เลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น สแตนเลส 304 หรือ 316 สำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมีสูง และวัสดุ พลาสติก (PA66) หรือ ไนลอน สำหรับงานที่ไม่ต้องเผชิญกับสภาวะแวดล้อมที่มีการกัดกร่อน
3. เลือกประเภทเกลียวให้ตรงกับการติดตั้ง คำนึงถึงประเภทของเกลียวที่ต้องใช้ เช่น PG (ตามมาตรฐานเยอรมัน), M (เมตริก), หรือ NPT (ท่อเกลียวอเมริกัน) เพื่อให้เหมาะสมกับอุปกรณ์หรือการติดตั้งของแต่ละระบบ และหลีกเลี่ยงการใช้เกลียวที่ไม่เข้ากับอุปกรณ์
4. เลือกระดับการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP Rating) หากต้องการใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือมีโอกาสสัมผัสกับน้ำ ควรเลือกที่มีระดับการป้องกันน้ำและฝุ่นสูง เช่น IP67 หรือ IP68 เพื่อป้องกันการรั่วซึม
5. พิจารณาอุณหภูมิการใช้งาน เลือกเที่ทนทานต่ออุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไป หากต้องใช้ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือหนาวเย็น ควรเลือกวัสดุที่ทนต่ออุณหภูมิได้ เช่น ใช้วัสดุ สแตนเลส หรือ ซีลยางคุณภาพสูง ที่ทนต่อความร้อนได้
สอบถามและปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าได้โดยตรง
บริการนำเข้าทางเครื่องบิน (Air Freight)
มีสต็อกพร้อมส่งในประเทศ รองรับการใช้งานได้ทันที
✅ จัดส่งได้ทันทีภายใน 1–2 วันทำการ
✅ ปริมณฑล และต่างจังหวัด 2-3 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการขนส่งเอกชน) **สามารถระบุได้
สั่งผลิตตามขนาดและความต้องการใช้งานได้
✅เลือกขนาดได้อิสระ: กำหนด ความกว้าง x ความสูง x ความลึก ตามพื้นที่ใช้งาน