ขนาดเคเบิ้ลแกลนโลหะทองเหลือง

ขนาดเคเบิ้ลแกลนโลหะทองเหลือง (Nickel-Plated Brass Cable Gland) มีให้เลือกหลากหลายขนาดตามลักษณะงานและขนาดของสายไฟที่ใช้งาน โดยจะมีเกลียวให้เลือกหลักๆ ได้แก่ PG, M (Metric), และ NPT ซึ่งแต่ละประเภทจะมีขนาดแตกต่างกันไปตามมาตรฐาน ขนาดยอดนิยม PG13.5 / M20 สายไฟแรงต่ำในงานเครื่องจักร, ระบบเซนเซอร์ PG16 / M25 สายไฟในตู้สวิทช์บอร์ด, ตู้ควบคุมกลางแจ้ง เป็นต้น

สินค้าแนะนำและใกล้เคียง

เกี่ยวกับการเลือกขนาดเคเบิ้ลแกลน

ควรพิจารณาจากขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟ เพื่อให้ยึดสายได้อย่างแน่นหนาและปลอดภัย ไม่หลวมหรือแน่นเกินไปจนเกิดความเสียหาย ควรเลือกประเภทเกลียวให้ตรงกับอุปกรณ์ เช่น PG, M หรือ NPT หากอุปกรณ์ไม่ได้ต๊าปเกลียวไว้ สามารถเลือกใช้แบบใกล้เคียงกันได้ เลือกวัสดุให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม เช่น พลาสติก ทองเหลือง หรือสแตนเลส และควรตรวจสอบระดับการป้องกัน IP68 เพื่อให้เหมาะกับงานใช้งานกลางแจ้งหรือในโรงงานอุตสาหกรร

รายละเอียดสินค้าและราคา

ตรวจสอบช่วงขนาดสายไฟที่รองรับ

หลังจากที่ได้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟแล้ว ให้ดูจากตารางขนาดที่มีให้ในคู่มือหรือเว็บไซต์ของผู้ผลิต ซึ่งตารางนี้จะบ่งบอกขนาดของสายไฟที่สามารถรองรับได้ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ผลิตจะระบุขนาดสายไฟที่เหมาะสมแต่ละขนาดอย่างชัดเจน การเลือกขนาดที่ถูกต้องจะช่วยให้การติดตั้งมีความปลอดภัยและทนทานยาวนาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการเกิดความเสียหายจากการใช้งานระบบไฟฟ้า

ตารางตัวอย่างการใช้งานตามขนาดยอดนิยม:

ขนาดการใช้งานที่เหมาะสม
PG9 / M16ระบบไฟฟ้าในตู้คอนโทรล, เครื่องจักรขนาดเล็ก
PG13.5 / M20สายไฟแรงต่ำในงานเครื่องจักร, ระบบเซนเซอร์
PG16 / M25สายไฟในตู้สวิทช์บอร์ด, ตู้ควบคุมกลางแจ้ง
PG21 / M32งานติดตั้งระบบไฟหลัก, สายไฟขนาดใหญ่ขึ้น
M50 / M63ระบบไฟโรงงานอุตสาหกรรมหนัก หรือระบบพลังงาน

ปัจจัยเพิ่มเติมในการเลือกขนาดเคเบิ้ลแกลน

  1. ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟ (OD – Outer Diameter):
    เป็นค่าที่สำคัญที่สุดที่ต้องตรวจสอบ เพื่อเลือกให้พอดีกับสาย ไม่แน่นหรือหลวมเกินไป

  2. ประเภทของสายไฟ

    • สายเดี่ยว

    • สายหุ้มเกราะ (Armoured Cable)

    • สายสัญญาณ
      ประเภทสายจะมีผลต่อการเลือกชนิดเช่น ต้องใช้แบบ Armoured หรือ Non-Armoured

ตรวจสอบช่วงขนาดสายไฟที่รองรับ Cable gland
ตารางขนาด (เกลียว M-Type ยอดนิยม
เกลียว (M)เส้นผ่านศูนย์กลางสายไฟที่รองรับ (mm)เส้นผ่านศูนย์กลางเกลียว (mm)ความยาวเกลียว (mm)
M123 – 6.5128
M164 – 81610
M206 – 122010
M2511 – 182512
M3215 – 223214
M4019 – 284016
เกี่ยวกับการเลือกขนาดเคเบิ้ลแกลน
ข้อดีของเคเบิ้ลแกลนโลหะทองเหลือง
  • ป้องกันการกัดกร่อนอย่างดีเยี่ยม
    เหมาะกับการใช้งานในบริเวณที่มีความชื้น, น้ำเค็ม, หรือสารเคมี เช่น โรงงานอุตสาหกรรมอาหาร, ปิโตรเคมี, หรืออุตสาหกรรมทั่วไป

  • ความแข็งแรงสูง
    ตัวเรือนทำจากทองเหลือง มีความแข็งแรงทางกล ทนแรงกระแทกได้ดี รองรับแรงดึงของสายไฟ ไม่แตกหักง่าย เคเบิ้ลแกลน

  • รองรับการใช้งานในช่วงอุณหภูมิที่กว้าง
    โดยทั่วไปรองรับได้ที่ประมาณ -40°C ถึง +100°C (ขึ้นอยู่กับรุ่นและยางซีล)

  • รองรับหลายขนาดสายไฟในแต่ละรุ่น
    เช่น M25 อาจรองรับสายไฟที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 11-18 มม.

เคเบิ้ลแกลนโลหะทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล คือ

ปกรณ์ที่ใช้ในการยึดและป้องกันสายไฟในระบบไฟฟ้า โดยมีหน้าที่ช่วยป้องกันฝุ่น น้ำ ความชื้น และแรงดึงจากสายไฟในจุดต่อเข้ากับตู้ไฟฟ้า กล่องพักสาย หรือเครื่องจักรต่าง ๆ วัสดุประเภทนี้ผลิตจาก ทองเหลือง ซึ่งแข็งแรง และผ่านกระบวนการ ชุบนิกเกิ้ล (Nickel Plating) เพื่อเพิ่มความสามารถในการต้านทาน การเกิดสนิม การกัดกร่อน และการสึกหรอ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานติดตั้งในโรงงานอุตสาหกรรม พื้นที่ที่มีไอน้ำ หรือบริเวณที่มีสารเคมีอ่อน ๆ

  • ทนต่อการกัดกร่อน – การชุบนิกเกิ้ลช่วยเพิ่มความต้านทานต่อสนิมและสารเคมี เช่น กรด ด่าง และน้ำมัน

  • แข็งแรงและทนทาน – วัสดุทองเหลืองมีความแข็งแรงสูง ไม่แตกหักง่าย รองรับแรงดึงของสายไฟได้ดี

  • กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 – เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้น ฝุ่น หรือแช่น้ำชั่วคราว

  • รองรับอุณหภูมิสูง – สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูงได้โดยไม่เสียรูป

  • ติดตั้งง่าย – ออกแบบให้สามารถขันและยึดสายไฟได้อย่างแน่นหนา โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ

  • รองรับเกลียวหลากหลาย – มีให้เลือกทั้งแบบ PG, M และ NPT ตามลักษณะการใช้งานและอุปกรณ์ที่ใช้ร่วม

  • ความต้านทานต่อการเสียดสี – วัสดุทองเหลืองชุบนิกเกิ้ลมีความสามารถในการทนทานต่อการเสียดสี ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนที่ของสายไฟหรือแรงสั่นสะเทือน

  • เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมี – ทองเหลืองชุบนิกเกิ้ลสามารถทนทานต่อสารเคมีที่พบได้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น กรด ด่าง หรือสารละลายต่างๆ

เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม และเครื่องจักรที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทานสูง.

ขนาดเคเบิ้ลแกลนเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟ (Outer Diameter)

คือ ขนาดวัดจากผิวด้านนอกของสายไฟโดยรวม ซึ่งรวมทั้งฉนวนและเปลือกหุ้มทั้งหมด เป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการเลือกให้เหมาะสม เพื่อให้สามารถยึดสายไฟได้แน่น ป้องกันการหลุดหรือรั่วซึมของฝุ่นและน้ำ โดยทั่วไปผู้ใช้งานจะต้องวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟ (ไม่ใช่เฉพาะตัวนำทองแดงด้านใน) แล้วเลือกที่ระบุช่วงรองรับของขนาดสายไฟให้พอดี เช่น หากสายไฟมีขนาด 10.5 มม. ให้เลือกที่รองรับช่วงขนาดสาย 10-14 มม. เป็นต้น

เกี่ยวกับการเลือกขนาดเคเบิ้ลแกลน

1. ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟ (Outer Diameter)

  • ควรวัด เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟหรือสายเคเบิล เพื่อเลือกขนาดที่รองรับได้พอดี ไม่หลวมเกินไปและไม่แน่นเกินไป

  • ตัวอย่าง: สายไฟมี OD = 10 mm → เหมาะกับขนาด PG11 หรือ M16 ที่รองรับ 5–10 mm 


2. ประเภทเกลียวที่ใช้งาน

  • PG: เกลียวมาตรฐานยุโรป เหมาะกับกล่องพักสายแบบดั้งเดิม

  • M (Metric): นิยมทั่วไป ใช้ได้กับหลายประเภทของตู้และกล่องไฟ

  • NPT: เกลียวทรงกรวย นิยมในอเมริกา เหมาะกับระบบแรงดันหรือกันระเบิด


3. ความยาวเกลียว (Thread Length)

  • สำคัญเมื่อใช้งานกับกล่องไฟที่มีผนังหนา เคเบิ้ลแกลน

  • หากกล่องไฟหนา ควรเลือก แบบ Extra Long เพื่อให้เกลียวสามารถยึดแน่นได

ผลงานสินค้าและบริการของเรา

สินค้าเคเบิ้ลแกลนด์
สแตนเลส cable gland
โลหะ cable gland
ทองเหลือง cable gland
วิธีอ่านตารางขนาดเคเบิ้ลแกลนและการเลือกขนาดให้ถูกต้อง
  • ตรวจสอบขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟ (Outer Diameter):
    เริ่มจากการวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (OD) ของสายไฟที่ต้องการติดตั้ง โดยใช้ไม้บรรทัดหรือเครื่องมือวัดขนาดที่เหมาะสม ซึ่งมีหน่วยวัดเป็นมิลลิเมตร (mm) หรือนิ้ว (inch)

  • เลือกขนาดที่เหมาะสม:
    เมื่อตรวจสอบขนาดของสายไฟแล้ว ให้เลือกขนาดที่สามารถรองรับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟได้ โดยดูจากตารางที่แสดงขนาดสายไฟที่รองรับกับขนาด เช่น หากเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟเป็น 10 มม. ให้เลือกเคเบิ้ลแกลนที่รองรับขนาดสายไฟนี้ตามตาราง

  • ตรวจสอบประเภทเกลียว:
    มีหลากหลายประเภทเกลียว เช่น PG, M หรือ NPT ควรเลือกให้ตรงกับเกลียวที่มีในอุปกรณ์ที่ติดตั้ง เพื่อให้การเชื่อมต่อแน่นหนาและปลอดภัย

  • คำนึงถึงมาตรฐานการป้องกัน:
    จะมีมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น เช่น IP68 หรือ IP65 ซึ่งสำคัญสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือฝุ่นมาก ควรเลือกที่มีการป้องกันที่ตรงตามความต้องการของสภาพแวดล้อมนั้นๆ

  • วัสดุของ Cable gland :
    เลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น หากใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงจากสารเคมีหรือการกัดกร่อน ควรเลือกที่ทำจากวัสดุที่ทนทาน เช่น สแตนเลสหรือทองเหลืองชุบนิกเกิ้

FAQ คำถามที่พบบ่อย

สอบถามและปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าได้โดยตรง

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สินค้าและบริการ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดสินค้าเชิงเทคนิค การเลือกขนาดที่เหมาะสม หรือคำแนะนำในการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทีมงานของเรายินดีให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ เราพร้อมช่วยคุณ สามารถติดต่อเราผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์, อีเมล, หรือแชทออนไลน์ ทีมงานยินดีตอบทุกคำถาม เพื่อให้คุณมั่นใจในสินค้าที่เลือกใช้สินค้าและบริการ ติดต่อเรา ☑

บริการนำเข้าทางเครื่องบิน (Air Freight)

หากลูกค้ามีความต้องการใช้ สินค้าที่ผลิตจากต่างประเทศหรือสินค้าอื่น ๆ แบบเร่งด่วน ทางเรามีบริการจัดหาและนำเข้าสินค้าด้วยวิธีการขนส่งทางอากาศ (Air Freight) เพื่อให้สามารถจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วและตรงตามกำหนดเวลาการใช้งานของคุณ ระยะเวลาการจัดส่งรวดเร็ว: โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 3–7 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับประเทศต้นทางและสายการบินที่ให้บริการ) ติดต่อเรา ☑

มีสต็อกพร้อมส่งในประเทศ รองรับการใช้งานได้ทันที

เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เราได้ จัดเก็บสต็อกสินค้าเคเบิ้ลแกลนและอุปกรณ์อื่น ๆ ไว้ภายในประเทศ เป็นจำนวนมากและครอบคลุมหลายขนาด เพื่อให้สามารถจัดส่งได้อย่างรวดเร็วและรองรับทุกความต้องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่
✅ จัดส่งได้ทันทีภายใน 1–2 วันทำการ
✅ ปริมณฑล และต่างจังหวัด 2-3 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการขนส่งเอกชน) **สามารถระบุได้

สั่งผลิตตามขนาดและความต้องการใช้งานได้

เรามีบริการ ออกแบบและสั่งผลิตตู้ไฟฟ้าสแตนเลส (Stainless Steel Electrical Enclosure) ตามขนาดและรูปแบบที่ลูกค้าต้องการ เพื่อให้ตรงกับหน้างานจริงและเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานเฉพาะด้านของแต่ละอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นงานในพื้นที่กลางแจ้ง, พื้นที่เปียกชื้น, โรงงานอาหาร, เคมีภัณฑ์ หรืออุตสาหกรรมหนัก
✅เลือกขนาดได้อิสระ: กำหนด ความกว้าง x ความสูง x ความลึก ตามพื้นที่ใช้งาน