เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส Cable gland Stainless
เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส คืออุปกรณ์ที่ใช้ยึดและป้องกันสายไฟไม่ให้เคลื่อนตัวในระบบไฟฟ้า ผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 จึงทนทาน ไม่เป็นสนิม และต้านทานการกัดกร่อนได้ดี เหมาะสำหรับงานที่มีความชื้น ฝุ่น สารเคมี หรืออุณหภูมิสูงช่วยป้องกันการเสียหายของสายไฟจากแรงดึงหรือแรงสั่นสะเทือน รองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ใช้งานได้ทั้งในอุตสาหกรรมทั่วไป อุตสาหกรรมอาหาร และงานกลางแจ้ง ทำหน้าที่ยึดสายไฟให้มั่นคงลดการเคลื่อนที่ของสายไฟ
Stainless Steel Cable Gland 304 คือ?
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อและป้องกันสายไฟหรือเคเบิ้ลให้มีความปลอดภัยในงานติดตั้งระบบไฟฟ้า โดยเฉพาะในงานที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น ความชื้น ฝุ่น ความร้อน และการกัดกร่อน หน้าที่ในการป้องกันการรั่วซึม หน้าที่ในการป้องกันการรั่วซึม เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยเสริมความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้า ทำให้อุปกรณ์นี้กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในงานอุตสาหกรรมและงานที่ต้องการความทนทานสูง
รายละเอียดสินค้าและราคา
หน้าที่หลักของเคเบิ้ลแกลนสแตนเลสคือไร?
หนึ่งในหน้าที่หลักของ Cable gland Stainless คือ การป้องกันการรั่วซึม ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับการใช้งานในระบบไฟฟ้า โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่อความชื้น ฝุ่น หรือสารเคมี โดยการออกแบบให้มีซีลยางที่แนบสนิทกับสายไฟเมื่อประกอบเข้ากัน ซีลยางนี้ทำหน้าที่คล้ายกับเกราะป้องกันที่ช่วยลดโอกาสของน้ำหรือฝุ่นที่จะเล็ดลอดเข้าไปในระบบสายไฟ ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสียหายและการลัดวงจร
ตารางขนาด CABLE GLAND สแตนเลส
ขนาดเกลียว (Thread Size) | ช่วงขนาดสายไฟ (Cable Range) | การใช้งานทั่วไป |
---|---|---|
M12 × 1.5 | 3 – 6.5 mm | สายสัญญาณ / สายควบคุมขนาดเล็ก |
M16 × 1.5 | 4 – 8 mm | ระบบควบคุม, Sensor |
M20 × 1.5 | 6 – 12 mm | สายไฟทั่วไป, สายอุปกรณ์เครื่องจักร |
M25 × 1.5 | 9 – 16 mm | ระบบไฟฟ้าเครื่องจักรขนาดกลาง |
M32 × 1.5 | 11 – 21 mm | สายพาวเวอร์แรงดันสูงปานกลาง |
M40 × 1.5 | 19 – 28 mm | สายไฟหลัก, สายมอเตอร์ |
M50 × 1.5 | 27 – 35 mm | งานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ |
M63 × 1.5 | 34 – 44 mm | สายไฟฟ้ากำลัง, ระบบเดินสายกลางแจ้ง |
M75 × 1.5 | 42 – 53 mm | สายไฟขนาดใหญ่, ระบบหลักของโรงงาน |
ส่วนประกอบและขนาดของ Cable Gland
- GL (Gland Length): ความยาวของส่วนที่ยื่นออกมาของต่อมสายไฟ ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้ยึดกับตัวกล่องหรืออุปกรณ์
- AG (Approximated Grip Length): ความยาวส่วนที่ยึดกับตัวสายไฟ ซึ่งจะขันให้แน่นเพื่อป้องกันสายไฟหลุดออก
- Cable Range of Entry hole: ขนาดรูที่ใช้สำหรับใส่สายไฟ โดยจะมีขนาดให้เลือกหลายขนาด เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดของสายไฟที่ใช้
5 เหตุผลที่ควรเลือกใช้เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส
1.ทนทานต่อสภาพแวดล้อม: เคเบิ้ลสแตนเลสผลิตจากวัสดุสแตนเลสเกรด 304 ซึ่งมีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเล กรดอ่อน และสารเคมี
2.ป้องกันการรั่วซึม: ด้วยมาตรฐาน IP68 เคเบิ้ลสแตนเลสสามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. รองรับงานหนัก: โครงสร้างแข็งแรงช่วยป้องกันสายไฟจากแรงดึงและการสั่นสะเทือนในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้งานหนัก
4. ติดตั้งง่าย: การออกแบบที่เรียบง่ายช่วยให้ผู้ใช้งานติดตั้งได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง
5. ปลอดภัยและยืดหยุ่น: เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมที่ต้องการระบบไฟฟ้าที่ปลอดภัยและมีความยืดหยุ่นสูง เช่น งานกลางแจ้ง โรงงานเคมี หรือในพื้นที่เสี่ยง
ทำไมการป้องกันการรั่วซึมจึงสำคัญ?
ความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า การรั่วซึมของน้ำหรือสารเคมีเข้าสู่สายไฟอาจทำให้เกิดความเสียหาย เช่น การลัดวงจร ซึ่งนำไปสู่ปัญหาความปลอดภัยที่ร้ายแรง ยืดอายุการใช้งานของสายไฟ เมื่อสายไฟได้รับการป้องกันจากความชื้นและสารเคมี ระบบไฟฟ้าจึงสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและยาวนาน รองรับงานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงเหมาะสำหรับงานที่ต้องเผชิญกับความชื้นสูง เช่น โรงงานผลิตอาหาร, โรงงานเคมี หรือพื้นที่ที่ต้องสัมผัสกับน้ำทะเล
- สามารถยึดสายไฟได้แน่นหนาและรองรับสายไฟหลากหลายขนาด ความสามารถนี้ช่วยลดการเคลื่อนไหวของสายไฟที่อาจเกิดจากแรงดึงหรือการสั่นสะเทือน ตัวอุปกรณ์มีระบบล็อกภายใน เช่น Clamp Ring หรือ Lock Nut ที่ช่วยให้สายไฟยึดติดอยู่กับที่ ลดโอกาสเกิดความเสียหายหรือสายไฟหลุดระหว่างการใช้งาน
- ผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 (Stainless Steel – 304) วัสดุสแตนเลสเกรด 304 มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความแข็งแรงและการต้านทานการเกิดสนิม สแตนเลสชนิดนี้เป็นวัสดุที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทาน เช่น อุตสาหกรรมอาหาร, เคมี, และงานติดตั้งภายนอกอาคาร เพราะสามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสัมผัสกับน้ำทะเลได้โดยไม่เกิดสนิม คุณสมบัติที่กล่าวมาไม่เพียงช่วยยกระดับความปลอดภัยในการใช้งานสายไฟ แต่ยังตอบโจทย์งานในอุตสาหกรรมและสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ทั้งความสะดวกในการติดตั้ง ความทนทาน และมาตรฐานระดับสากล ทำให้อุปกรณ์นี้เป็นตัวเลือกที่ครบครันสำหรับงานติดตั้งระบบไฟฟ้า
- ติดตั้งได้ง่าย การออกแบบให้ใช้งานง่ายเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ผู้ติดตั้งสามารถใช้งานได้สะดวก โดยไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสริมมากมาย ตัวอุปกรณ์มีเกลียวที่แม่นยำและสามารถขันเข้ากับพื้นผิวหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้อย่างราบรื่น ผ่านมาตรฐานสากล: CE การรับรองมาตรฐาน CE (Conformité Européene) เป็นเครื่องยืนยันว่าได้ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพของสหภาพยุโรป การรับรองนี้ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์มีคุณภาพสูง ปลอดภัย และเป็นไปตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม
ระดับการป้องกันน้ำและฝุ่น: IP68 มีการออกแบบที่สามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ตามมาตรฐาน IP68 โดยตัวเลข 6 หมายถึงความสามารถในการป้องกันฝุ่นในระดับสูงสุด และตัวเลข 8 หมายถึงการกันน้ำลึกได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่เปียกชื้น เช่น สถานีสูบน้ำ หรือบริเวณใกล้ทะเล ความทนทานต่อการกัดกร่อนและสารเคมี ด้วยวัสดุสแตนเลสเกรด 304 ทำให้ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเล, กรดอ่อน, แอลกอฮอล์, และไขมัน คุณสมบัตินี้ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีหรือในสภาพแวดล้อมที่มีความรุนแรง เช่น โรงงานเคมีและโรงงานอาหาร
ส่วนประกอบที่สำคัญของเคเบิ้ลแกลนสแตนเลสมีดังนี้:
1. Lock Nut (น็อตล็อก) หน้าที่: ใช้สำหรับขันยึดเคเบิ้ลสแตนเลสกับพื้นผิวหรือแผงติดตั้งเพื่อให้เคเบิ้ลสแตนเลสอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง ลักษณะเด่น: มีเกลียวที่แน่นและแข็งแรง ทำจากสแตนเลสเพื่อป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อ
2. O-Ring (โอริง) หน้าที่: ทำหน้าที่ซีลระหว่างตัวเคเบิ้ลสแตนเลสและพื้นผิวการติดตั้ง เพื่อป้องกันน้ำ ฝุ่น และสารเคมีไม่ให้เข้าสู่ระบบสายไฟ ลักษณะเด่น: ผลิตจากยางคุณภาพสูงที่มีความยืดหยุ่นและทนต่ออุณหภูมิและสารเคมี
3. Body (ตัวเรือน) หน้าที่: เป็นโครงสร้างหลักของเคเบิ้ลสแตนเลสที่ใช้เชื่อมต่อกับสายไฟและอุปกรณ์อื่น ๆ ลักษณะเด่น: ทำจากสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 เพื่อความทนทานต่อการกัดกร่อนและการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น น้ำทะเลหรือกรดอ่อน
4. Seal (ซีล) หน้าที่: ป้องกันน้ำและฝุ่นไม่ให้ผ่านเข้าสู่ภายในเคเบิ้ลสแตนเลส โดยซีลนี้จะรัดสายไฟให้แน่นเพื่อป้องกันการรั่วซึม ลักษณะเด่น: มักทำจากวัสดุที่ทนทานต่อการใช้งานในอุณหภูมิสูงและสารเคมี
5. Claw (คลอว์) หน้าที่: เคเบิ้ลแกลน ให้มั่นคงภายในตัวเคเบิ้ลสแตนเลส ช่วยป้องกันสายไฟไม่ให้เคลื่อนที่หรือหลุดออกจากตำแหน่ง ลักษณะเด่น: มีลักษณะเป็นฟันที่ยึดสายไฟอย่างแน่นหนาโดยไม่ทำให้สายไฟเสียหาย
6. Thread-lock Sealing Nut (น็อตเกลียวซีลล็อก) หน้าที่: ใช้สำหรับขันปิดตัวเรือนเพื่อให้ทุกส่วนประกอบของเคเบิ้ลสแตนเลสทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์ โดยช่วยบีบซีลและคลอว์ให้ยึดติดกับสายไฟอย่างแน่นหนา ลักษณะเด่น: มีเกลียวที่แม่นยำ แข็งแรง และทำจากสแตนเลสเพื่อความทนทาน
ส่วนประกอบทั้งหมดทำงานร่วมกันเพื่อให้สายไฟได้รับการปกป้องจากน้ำ ฝุ่น และแรงดึง ทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้า เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานและความน่าเชื่อถือสูง!
ผลงานสินค้าและบริการของเรา
ขั้นตอนการตรวจสอบและติดตั้งเกลียว PG, M, และ NPT
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบประเภทเกลียวที่ใช้งาน ก่อนเริ่มติดตั้ง ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์หรือรูติดตั้งมีการต๊าปเกลียวไว้แล้วหรือไม่ หากต๊าปไว้แล้ว ต้องทราบว่าประเภทเกลียวคือ PG, M, หรือ NPT พร้อมยืนยันขนาดเกลียว เช่น PG13.5, PG16, M32, M40, หรือ NPT3/4” โดยข้อมูลนี้จะช่วยให้การติดตั้งเหมาะสมและมั่นใจในความเข้ากันได้ของเกลียว
ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบขนาดรูติดตั้ง วัดขนาดรูที่ต้องการติดตั้งด้วยเครื่องมือวัดที่เหมาะสม เช่น เวอร์เนียร์หรือไมโครมิเตอร์ เพื่อยืนยันว่าขนาดรูตรงกับขนาดเกลียวที่เลือก หากรูติดตั้งมีขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไป อาจต้องเจาะใหม่หรือติดตั้งอะแดปเตอร์เกลียวที่เหมาะสม
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบสายเคเบิ้ลให้เหมาะสม สำรวจสายเคเบิ้ลที่จะใช้งาน โดยวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสาย และเปรียบเทียบกับ Cable Range ของเคเบิ้ลยึดสายไฟรุ่นนั้น ๆ หากสายเล็กหรือใหญ่เกินไป อาจทำให้การซีลไม่แน่นหนา หรือทำให้เกิดแรงดึงมากเกินไปที่สายเคเบิ้ล
ขั้นตอนที่ 4: ติดตั้งเคเบิ้ลและขันเกลียวให้แน่น เมื่อเลือกขนาดที่เหมาะสมแล้ว ให้สอดสายเคเบิ้ลผ่าน Cable gland และปรับตำแหน่งให้สายอยู่ในจุดที่เหมาะสม จากนั้นขันส่วนเกลียวให้แน่นเพื่อให้ซีลยางทำงานเต็มที่ ควรหลีกเลี่ยงการขันแน่นเกินไป เพราะอาจสร้างแรงกดต่อสายจนเกิดความเสียหาย ☑ รายละเอียดสินค้าและราคา
วิธีเลือกเคเบิ้ลแกลนสแตนเลสที่เหมาะสมกับงานของคุณ Cable Gland Stainless เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับการยึดสายไฟและเพิ่มความปลอดภัยในระบบไฟฟ้า การเลือกใช้เคเบิ้ลยึดสายไฟที่เหมาะสมกับงานของคุณจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะช่วยให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว
- ตรวจสอบขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ล ก่อนเลือกเคเบิ้ลยึดสายไฟ ควรเริ่มต้นด้วยการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟหรือสายเคเบิ้ลที่ต้องการใช้งาน เพื่อให้แน่ใจว่าเคเบิ้ลยึดสายไฟมีขนาดที่พอดีกับสายไฟ ข้อมูลนี้สามารถเปรียบเทียบกับ Cable Range ที่ระบุไว้ในสเปกของเคเบิ้ลรัดสายไฟ หากเลือกขนาดที่เล็กหรือใหญ่เกินไป อาจส่งผลต่อการซีลและลดประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่น น้ำ หรือแรงดึง
- เลือกประเภทเกลียวที่เหมาะสม เกลียวของเคเบิ้ลรัดสายไฟมีหลากหลายรูปแบบ เช่น M (Metric) ,PG (Panzergewinde), NPT (National Pipe Thread
พิจารณาสภาพแวดล้อมการใช้งาน สภาพแวดล้อมมีผลต่อการเลือกวัสดุและคุณสมบัติของเคเบิ้ลรัดสายไฟอย่างมาก เช่น พื้นที่ที่มีความชื้นหรือเปียกน้ำ: ควรเลือกเคเบิ้ลรัดสายไฟที่มีมาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 พื้นที่ที่มีสารเคมีหรือความเค็มสูง: เลือกวัสดุสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 ที่ทนต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเล กรดอ่อน หรือสารเคมีพื้นที่อุณหภูมิสูงหรือต่ำ: เคเบิ้ลยึดสายไฟที่รองรับอุณหภูมิช่วงกว้าง เช่น -40°C ถึง 100°C จะเหมาะสมมากกว่า
สอบถามและปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าได้โดยตรง
บริการนำเข้าทางเครื่องบิน (Air Freight)
มีสต็อกพร้อมส่งในประเทศ รองรับการใช้งานได้ทันที
✅ จัดส่งได้ทันทีภายใน 1–2 วันทำการ
✅ ปริมณฑล และต่างจังหวัด 2-3 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการขนส่งเอกชน) **สามารถระบุได้
สั่งผลิตตามขนาดและความต้องการใช้งานได้
✅เลือกขนาดได้อิสระ: กำหนด ความกว้าง x ความสูง x ความลึก ตามพื้นที่ใช้งาน