ขนาด cable gland
ขนาด Cable Gland สแตนเลส 304 มีหลากหลายแบบขึ้นอยู่กับมาตรฐานเกลียวที่ใช้ เช่น PG, Metric (M), หรือ NPT โดยแต่ละขนาดจะมีช่วงขนาดสายไฟ (Clamping Range) ที่รองรับแตกต่างกันไป ตัวอย่างขนาดทั่วไปของเคเบิ้ลแกลนด์ สแตนเลส 304 ที่นิยมใช้ PG13.5 และ M20 เป็นขนาดที่พบมากที่สุดในการใช้งานทั่วไป เช่น ตู้คอนโทรล กล่องกันน้ำ และระบบไฟโรงงาน การเลือกขนาดที่ “พอดี” กับสายไฟจะช่วยให้ซีลกันน้ำทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และป้องกันการหลุดคลายของสายไฟ
สินค้าแนะนำและใกล้เคียง
แนวทางการเลือกใช้ขนาด Cable Gland
การเลือกขนาด ที่เหมาะสมมีความสำคัญเพื่อให้การติดตั้งระบบไฟฟ้ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยควรพิจารณาขนาดของสายไฟที่ใช้งานจริง ความยาวของเกลียวที่พอเหมาะ ประเภทเกลียวที่ตรงกับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ การป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP Rating รวมถึงการรองรับแรงดึงและการสั่นสะเทือน เพื่อให้สามารถป้องกันการคลายตัวและการรั่วซึมได้ นอกจากนี้ ควรเลือกขนาดที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อม เช่น สารเคมีหรือการกัดกร่อนในงานที่เฉพาะเจาะจง
รายละเอียดสินค้าและราคา
ประเภทของงานและสภาพแวดล้อมที่ใช้งาน
การเลือกขนาดที่เหมาะสมยังต้องคำนึงถึงประเภทของงานและสภาพแวดล้อมที่ใช้งาน หากติดตั้งในพื้นที่ที่มีความชื้นหรือสารเคมี ควรเลือกวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อน เช่น สแตนเลส 304 หรือ 316 หรือวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษในการป้องกันการทำลายจากภายนอก และต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเคเบิ้ลแกลนด์สามารถรองรับสายไฟที่มีขนาดและชนิดต่างๆ ได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย นอกจากนี้ การพิจารณาเรื่องระยะเวลาการใช้งานและการบำรุงรักษาก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกขนาดที่เหมาะสมเพื่อลดค่าใช้จ่ายระยะยาวและเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้งาน
ตารางขนาด cable gland stainless 304
| ขนาด (Thread Size) | Clamping Range (ขนาดสายที่รองรับ) | การใช้งานทั่วไป |
|---|---|---|
| PG9 | 4 – 8 มม. | สายไฟเล็ก, เซนเซอร์, คอนโทรลเลอร์ |
| PG11 | 5 – 10 มม. | สายไฟขนาดกลาง, อุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป |
| PG13.5 | 6 – 11 มม. | สายเครื่องจักร, ตู้ควบคุม, กล่องกันน้ำ |
| PG16 | 10 – 14 มม. | สายไฟ 2–3 แกน, ระบบไฟในโรงงาน |
| PG21 | 13 – 18 มม. | สายเมน, สายแรงสูงขนาดกลาง |
| PG29 | 18 – 25 มม. | สายไฟแรงสูง, งานโครงสร้างใหญ่ |
| M20 | 6 – 12 มม. | เทียบเท่า PG13.5, ใช้งานได้หลากหลาย |
| M25 | 10 – 17 มม. | เหมาะกับสายอุตสาหกรรมทั่วไป |
| M32 | 15 – 21 มม. | สำหรับสายใหญ่ในงานหนัก |
การเลือกขนาด Cable Gland ที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างไร?
พิจารณาขนาดสายไฟ (Cable Diameter): เลือกขนาดที่รองรับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟที่ใช้งานจริง เพื่อให้สามารถยึดสายได้อย่างมั่นคงและไม่หลวมเกินไป
ความยาวของเกลียว (Thread Length): คำนึงถึงความลึกของเกลียวที่ต้องใช้ในการติดตั้ง หากเกลียวสั้นเกินไปอาจทำให้ไม่สามารถขันได้แน่น หรืออาจทำให้เกิดการรั่วซึมได้
ประเภทเกลียว (Thread Type): เลือกเกลียวให้เหมาะสมกับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ เช่น PG, M หรือ NPT ซึ่งแต่ละประเภทจะใช้ในระบบไฟฟ้าและการติดตั้งต่างกัน
การป้องกันน้ำและฝุ่น (IP Rating): เลือกขนาดที่มีการป้องกันน้ำและฝุ่นที่เหมาะสม เช่น IP66 หรือ IP67 ขึ้นอยู่กับการใช้งานในพื้นที่ที่อาจเจอน้ำหรือฝุ่น เคเบิ้ลแกลน
การคำนึงถึงแรงดึงและการสั่นสะเทือน: หากทำงานในพื้นที่ที่มีการสั่นสะเทือนหรือแรงดึงมาก ควรเลือกขนาดที่มีความแข็งแรงสูง เพื่อป้องกันการคลายตัวของสายไฟ
แนวทางการเลือกใช้เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส
1. ขนาดสายไฟ (Cable Diameter)ตรวจสอบขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟที่ใช้จริง เปรียบเทียบกับ “Clamping Range” ของแต่ละรุ่น (เช่น PG13.5 รองรับสายขนาด 6–11 มม.)เลือกให้สายอยู่ “กลางช่วง” ไม่เล็กหรือใหญ่สุดเกินไป เพื่อให้ซีลทำงานได้ดี
2. ประเภทเกลียว (Thread Type) ตรวจสอบตู้ควบคุมหรือกล่อง Junction Box ว่าใช้เกลียวแบบใด:
PG: นิยมในยุโรป
M (Metric): มาตรฐานสากล
NPT: นิยมในอเมริกาและงานท่อ
เลือกเกลียวให้ตรงกับอุปกรณ์เพื่อป้องกันการรั่วซึมหรือขันไม่สุด
3. ระดับการป้องกัน (IP Rating)หากติดตั้งกลางแจ้ง หรือในพื้นที่เสี่ยงน้ำ/ฝุ่น ให้เลือก IP66 ขึ้นไป สำหรับงานใต้น้ำหรือลึก ควรใช้รุ่นที่มี IP68 พร้อมซีลคุณภาพสูง
จุดเด่นของขนาด Cable Gland สแตนเลส 304 ที่ควรรู้
ตรวจสอบการรับประกันและการรับรองมาตรฐาน ที่เลือกมีการรับรองจากหน่วยงานมาตรฐาน เช่น CE, UL, IEC หรือ RoHS ซึ่งจะช่วยยืนยันว่านั้นๆ ผ่านการทดสอบและมีคุณสมบัติที่รับรองความปลอดภัยและความทนทานในระยะยาว รวมถึงช่วยให้มั่นใจว่าการใช้งานเป็นไปตามข้อกำหนดทางเทคนิคที่รับรอง
New series
2025
✅ 1. ป้องกันการคลายตัวของสายไฟ ช่วยยึดสายไฟให้แน่นหนา ไม่หลุดจากตู้ควบคุมแม้เกิดแรงสั่นสะเทือน เหมาะกับงานเครื่องจักรกลและระบบควบคุมอัตโนมัติ
✅ 2. รองรับแรงดึงและแรงบิด ด้วยวัสดุสแตนเลส 304 ที่แข็งแรงและไม่เปราะ ช่วยป้องกันสายไฟจากการขาดหรือเสียหายจากแรงกระชากหรือดึงสายโดยไม่ตั้งใจ
✅ 3. ป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่อุปกรณ์ เมื่อใช้งานร่วมกับโอริงหรือซีลยาง จะได้ระดับป้องกัน IP66–IP68 ซึ่งสามารถกันน้ำ กันฝุ่น และป้องกันการรั่วซึมได้อย่างมั่นใจ
✅ 4. ทนต่อการกัดกร่อน สแตนเลส 304 เหมาะกับงานติดตั้งภายนอก หรือในที่ชื้น เพราะสามารถป้องกันการเกิดสนิมได้ในระดับดี
✅ 5. อายุการใช้งานยาวนาน ต่างจากเคเบิ้ลแกลนด์พลาสติกที่อาจเปราะแตกเมื่อใช้ไปนานหลายปี สแตนเลสให้ความมั่นคงและทนทานกว่าอย่างเห็นได้ชัด
คุณสมบัติเด่นขนาด Cable Gland Stainless 304
การติดตั้งเคเบิ้ลแกลนด์จะอยู่ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรืออาจมีการสัมผัสกับน้ำหรือฝุ่น ควรเลือกที่มีระดับการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP Rating) ที่เหมาะสม เช่น IP68 ซึ่งจะช่วยป้องกันการรั่วซึมของน้ำหรือฝุ่นเข้าสู่ระบบไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกคุณสมบัติ ซีล ที่สามารถทนต่อการสัมผัสกับน้ำหรือสารเคมีเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันความเสียหายจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
ทนต่อการกัดกร่อน สแตนเลสเกรด 304 มีโครเมียมผสมอยู่ประมาณ 18% และนิกเกิล 8% จึงสามารถต้านทานสนิมในสภาพแวดล้อมทั่วไป เช่น ความชื้น ฝุ่น น้ำ หรือสารเคมีอ่อน ๆ ได้ดี เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมและงานติดตั้งภายนอก
รองรับแรงดึงของสายไฟ ด้วยโครงสร้างแข็งแรงและการออกแบบที่แน่นหนา Cable Gland ช่วยยึดสายไฟไม่ให้หลุดออกจากอุปกรณ์หรือตู้ไฟฟ้าเมื่อมีแรงดึง ช่วยยืดอายุการใช้งานของสายและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากสายขาด เคเบิ้ลแกลน
ป้องกันน้ำและฝุ่น (IP Rating) เมื่อใช้งานร่วมกับโอริงและซีลยางคุณภาพดี Cable Gland Stainless 304 สามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้สูงสุดถึง IP68 ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทาน เช่น กลางแจ้ง ใกล้ทะเล หรือพื้นที่ล้างทำความสะอาด
รองรับอุณหภูมิสูง วัสดุสแตนเลสสามารถใช้งานได้ในอุณหภูมิสูงกว่าพลาสติกทั่วไป จึงเหมาะกับพื้นที่ที่มีความร้อน เช่น ใกล้เครื่องจักร หรือระบบควบคุมในโรงงานอุตสาหกรรมหนัก
ติดตั้งง่าย มาพร้อมกับเกลียวหลายรูปแบบ เช่น PG, M, และ NPT เพื่อรองรับการติดตั้งกับตู้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์หลากหลายประเภท ทั้งในระบบยุโรป เอเชีย และอเมริกา
ผลงานสินค้าและบริการของเรา
ขนาด Cable Gland Stainless 304 คือ
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยึดและป้องกันสายไฟหรือสายเคเบิลขณะต่อเข้าสู่อุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ตู้ควบคุมไฟฟ้า เครื่องจักร หรือกล่องกันน้ำ โดยวัสดุที่ใช้ทำคือ สแตนเลสเกรด 304 (Stainless Steel 304) ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน ป้องกันสนิมได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป และยังให้ความแข็งแรงในการยึดสายไฟได้อย่างมั่นคง
ต่ออะไร
ต่อระหว่างสายไฟกับ ตู้ควบคุมไฟฟ้า, เครื่องจักร, กล่องกันน้ำ (Junction Box) หรือ ท่อร้อยสาย
ใช้เชื่อมต่อเพื่อให้สายไฟผ่านเข้าตัวอุปกรณ์ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ให้ฝุ่น น้ำ หรือความชื้นรั่วซึมเข้าไป
ทำอะไร
ยึดสายไฟ ให้แน่น ไม่ให้ขยับหรือหลุดจากจุดติดตั้ง
ป้องกันน้ำ ฝุ่น และสิ่งแปลกปลอม ไม่ให้เข้าสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน (โดยเฉพาะรุ่นที่มี IP66, IP67, IP68)
ป้องกันแรงดึง ที่อาจส่งผลให้สายไฟหลุดจากขั้วต่อหรือเสียหาย
เพิ่มความเรียบร้อยและความปลอดภัย ในระบบไฟฟ้า
สรุปแล้ว Cable Gland Stainless 304 เป็นตัวกลางสำคัญที่ช่วยเชื่อมต่อสายไฟเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างปลอดภัย ทนทาน และเหมาะกับการใช้งานทั้งในโรงงานอุตสาหกรรม สถานีไฟฟ้า หรือแม้แต่บริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น พื้นที่ใกล้ทะเล.
FAQ คำถามที่พบบ่อย