ตารางเคเบิ้ลแกลน
ตารางเคเบิ้ลแกลน คือแหล่งรวมข้อมูลจำเพาะของ Cable gland แต่ละขนาด โดยจะระบุค่าต่างๆ เช่น ชื่อขนาด (PG, M, NPT), เส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟที่รองรับ, ขนาดรูเจาะ และความยาวเกลียวอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกอุปกรณ์ให้ตรงกับสายไฟและตู้ควบคุมได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้เลือกวัสดุที่ตรงกับสภาพแวดล้อม เช่น ไนลอนสำหรับงานภายใน ทองเหลืองหรือสแตนเลสสำหรับงานภายนอกที่เจอความชื้นหรือสารเคมี การดูตารางจึงช่วยให้เลือกทั้งขนาดและวัสดุได้ถูกต้องในครั้งเดียว
ตารางเคเบิ้ลแกลน คืออะไร ใช้ทำอะไร
การเลือกขนาดผิดอาจทำให้สายไฟเสียหาย หรือติดตั้งไม่แน่น ส่งผลต่อความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า ดังนั้นตารางนี้จึงมีประโยชน์อย่างมากสำหรับช่างไฟฟ้า วิศวกร หรือฝ่ายจัดซื้อที่ต้องการความมั่นใจในการเลือกใช้งานที่ถูกต้องตั้งแต่แรก ภายในตารางจะมีข้อมูลจำเป็น เช่น ขนาดสายไฟที่สามารถใช้ได้ (เช่น 10–14 มม. สำหรับ PG16), ขนาดรูที่ต้องเจาะ (เช่น 22.5 มม.), ความยาวเกลียว และประเภทเกลียว การมีข้อมูลครบถ้วนในรูปแบบตารางช่วยลดเวลาการตัดสินใจ และป้องกันข้อผิดพลาดในการเลือกอุปกรณ์
รายละเอียดสินค้าและราคา
ความสอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรม
ตารางเคเบิ้ลแกลนยังช่วยให้การทำงานสอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น CE, RoHS หรือมาตรฐาน IP กันน้ำกันฝุ่น ด้วยการเลือกอุปกรณ์ที่ตรงตามคุณสมบัติที่ระบุไว้ในตาราง ผู้ใช้งานจึงมั่นใจได้ว่างานติดตั้งจะผ่านการตรวจสอบ และใช้งานได้ปลอดภัยตามกฎเกณฑ์ของโรงงานหรืออาคาร การรู้ข้อมูลขนาดเกลียวที่แน่นอน เช่น PG16 หรือ M20 ทำให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น เช่น ท่อร้อยสาย คอนเน็กเตอร์ หรือตู้ควบคุมเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ต้องดัดแปลงหรือซื้ออุปกรณ์ใหม่ภายหลัง เป็นการลดเวลาและต้นทุนในกระบวนการติดตั้งทั้งหมด
ตารางเคเบิ้ลแกลน
รายการ | คำอธิบาย |
---|---|
ตารางเคเบิ้ลแกลนด์คืออะไร | ตารางที่แสดงข้อมูลจำเพาะแต่ละขนาด เช่น PG, M, NPT พร้อมบอกเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟที่รองรับ |
วัตถุประสงค์ของการใช้งาน | ใช้เพื่อเลือกขนาดให้เหมาะสมกับขนาดสายไฟที่ใช้งานจริง ป้องกันความเสียหายและเพิ่มความปลอดภัย |
ข้อมูลที่มักพบในตาราง | ประเภทเกลียว (PG, M, NPT), ช่วงขนาดสายไฟที่รองรับ (เช่น 6-10 มม.), ขนาดรูเจาะ (Mounting Hole), ความยาวเกลียว |
ประโยชน์หลัก | ช่วยให้ช่างไฟฟ้า วิศวกร และผู้ประกอบการสามารถเลือกได้อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการติดตั้งผิดขนาด |
ใช้งานในอุตสาหกรรมใดบ้าง | งานระบบไฟฟ้า, ตู้ควบคุม, เครื่องจักร, กล้องวงจรปิด, โซล่าเซลล์, และระบบอัตโนมัติทุกประเภท |
ตัวอย่าง | เช่น PG16 รองรับสายขนาด 10–14 มม., ต้องเจาะรูขนาด 22.5 มม. เพื่อใส่แกลนด์ลงตู้หรือแผงควบคุม |
ความต้านทานต่อสารเคมีและการกัดกร่อนเฉพาะทาง
ทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล: ทนทานต่อสารเคมีบางชนิดได้ดี เช่น น้ำมันและไขมัน แต่ไม่เหมาะกับสารเคมีเข้มข้นหรือสารเคมีรุนแรงบางประเภท เช่น กรดเข้มข้น
สแตนเลส 304: มีความต้านทานต่อสารเคมีได้กว้างขวางกว่า ทนต่อกรดอ่อนและสารกัดกร่อนหลายชนิด เหมาะกับงานในโรงงานเคมีหรือสภาพแวดล้อมที่มีสารกัดกร่อนสูง
การดูแลรักษาและการทำความสะอาด
ทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล: ต้องดูแลรักษาเป็นระยะ เนื่องจากชั้นนิกเกิ้ลที่เคลือบอยู่บนผิวอาจสึกหรอเมื่อใช้งานไปนานๆ และต้องระวังการเกิดคราบดำจากการเกิดออกซิเดชัน
สแตนเลส 304: ดูแลรักษาง่ายกว่า ไม่ต้องทำความสะอาดบ่อย และไม่เกิดคราบดำหรือสนิมง่าย แม้ในสภาพแวดล้อมเปียกชื้น
เหตุผลที่ควรใช้ "ตารางเคเบิ้ลแกลนด์"
✅ ลดข้อผิดพลาดในการเลือกขนาด – เลือกผิดอาจทำให้สายไฟแน่นเกินไปหรือลื่นหลุด
✅ วางแผนการเจาะรูติดตั้งได้แม่นยำ – ช่วยให้ติดตั้งแกลนด์ลงในตู้หรือแผงควบคุมได้พอดี
✅ เปรียบเทียบขนาดหลายรุ่นได้อย่างรวดเร็ว – เหมาะสำหรับช่างมืออาชีพหรือฝ่ายจัดซื้อ
✅ ประหยัดเวลาในการออกแบบและติดตั้ง – ข้อมูลชัดเจน ไม่ต้องทดลองหน้างาน เคเบิ้ลแกลน
✅ รองรับการใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร – ใช้เลือกวัสดุที่เหมาะกับสภาพแวดล้อม
✅ เสริมภาพลักษณ์งานติดตั้งมืออาชีพ – การเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสมเป็นมาตรฐานที่ลูกค้าเชื่อมั่นได้
การใช้งานในงานไฟฟ้าหลากหลายรูปแบบ
ตารางนี้สามารถใช้ได้กับงานไฟฟ้าหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานภายในอาคาร งานโซล่าเซลล์ งานตู้ควบคุมโรงงาน งานระบบกล้องวงจรปิด หรืองานระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรม จึงถือเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้งานได้กว้างขวางและคุ้มค่า การรู้ข้อมูลขนาดเกลียวที่แน่นอน เช่น PG16 หรือ M20 ทำให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น เช่น ท่อร้อยสาย คอนเน็กเตอร์ หรือตู้ควบคุมเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ต้องดัดแปลงหรือซื้ออุปกรณ์ใหม่ภายหลัง เป็นการลดเวลาและต้นทุนในกระบวนการติดตั้งทั้งหมด
1. ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม
ทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล: ทนต่อความชื้นและการกัดกร่อนได้ดีระดับหนึ่ง เหมาะกับการใช้งานภายนอกหรือในอุตสาหกรรมทั่วไป
สแตนเลส 304: มีความต้านทานการเกิดสนิมสูงกว่า เหมาะกับพื้นที่ที่มีความชื้นสูง หรือสภาพแวดล้อมที่กัดกร่อน เช่น โรงงานอาหารทะเล หรือชายฝั่งทะเล
2. ความแข็งแรงทางกล (Mechanical Strength)
ทองเหลือง: มีความแข็งแรงและเหนียวพอสมควร รองรับแรงดึงและแรงบิดได้ดี เหมาะกับงานติดตั้งทั่วไป
สแตนเลส 304: แข็งแรงกว่า มีความทนทานต่อแรงกระแทกและแรงบิดสูง เหมาะกับงานอุตสาหกรรมหนักที่ต้องการความทนทานระยะยาว
3. อายุการใช้งาน
ทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล: อายุการใช้งานนาน หากอยู่ในสภาพแวดล้อมไม่รุนแรง แต่จะเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้นเมื่อเจอสารเคมีเข้มข้น
สแตนเลส 304: มีอายุการใช้งานที่ยาวกว่าในทุกสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะในงานกลางแจ้งหรือพื้นที่กัดกร่อนสูง
4. การนำไฟฟ้าและความปลอดภัย
ทองเหลือง: เป็นโลหะนำไฟฟ้า จึงต้องติดตั้งอย่างถูกต้องและระวังการลัดวงจร
สแตนเลส 304: นำไฟฟ้าน้อยกว่าทองเหลือง จึงมักปลอดภัยกว่าต่อการสัมผัสเมื่อเกิดความผิดพลาด
ข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ในการอ่านตารางเคเบิ้ลแกลนด์
สำหรับวิศวกรหรือช่างที่ออกแบบระบบไฟฟ้าในอาคาร โรงงาน หรือโครงการขนาดใหญ่ ตาราง Cable gland สามารถใช้วางแผนตำแหน่งการร้อยสาย, ขนาดรูกล่องควบคุม และแม้แต่การเลือกกล่องหรือตู้ไฟให้เหมาะกับชนิดของสายและอุปกรณ์ติดตั้ง ช่วยให้การวางระบบมีประสิทธิภาพตั้งแต่ต้นทาง วัสดุ ทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล และ สแตนเลส 304 เป็นวัสดุยอดนิยมที่ใช้ โดยทองเหลืองชุบนิกเกิ้ลมีความแข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อนในระดับปานกลาง เหมาะกับงานทั่วไปที่ไม่เจอสภาพแวดล้อมรุนแรงและมีต้นทุนต่ำกว่า ขณะที่สแตนเลส 304 มีความทนทานสูงกว่าต่อการกัดกร่อน สนิม และสารเคมี เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยและความคงทนในระยะยาว โดยเฉพาะงานกลางแจ้งหรืองานอุตสาหกรรมหนัก ทั้งสองวัสดุมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน การเลือกใช้จึงขึ้นอยู่กับลักษณะงานและงบประมาณของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ
ช่วงขนาดสายไฟ (Clamping Range)
คือขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟที่สามารถใส่กับรุ่นนั้นได้ เช่น PG16 อาจรองรับสายไฟขนาด 10–14 มม. การรู้ช่วงนี้ช่วยให้คุณเลือกแกลนด์ไม่แน่นหรือหลวมเกินไปขนาดรูเจาะ (Mounting Hole Size)
เป็นขนาดของรูที่ต้องเจาะบนตู้หรือแผงควบคุม เพื่อให้ใส่ได้พอดี เช่น PG16 ต้องเจาะรูขนาด 22.5 มม. หากเจาะผิดขนาดจะทำให้แกลนด์หลวมหรือใส่ไม่ลงความยาวเกลียว (Thread Length)
บอกความลึกของส่วนที่เป็นเกลียวสำหรับขันล็อกบนผนังหรือแผง เช่น 10 มม., 12 มม. ใช้เลือกให้เหมาะกับความหนาของแผงหรือตู้ที่ติดตั้งมาตรฐานเกลียว (Thread Type)
ระบุว่าเป็น PG (Panzer-Gewinde), M (Metric), หรือ NPT (National Pipe Thread) เพื่อให้เข้ากับอุปกรณ์อื่น เช่น ตู้ควบคุมหรือคอนเน็กเตอร์ที่ใช้มาตรฐานเดียวกันระดับการป้องกัน (Protection Class)
ส่วนใหญ่จะมีระดับ IP (เช่น IP68) ซึ่งหมายถึงสามารถกันน้ำและฝุ่นได้ดี เหมาะกับงานกลางแจ้งหรือสภาพแวดล้อมเปียก/ฝุ่นเยอะวัสดุ บอกว่า เคเบิ้ลแกลน ทำจากไนลอน (PA66), ทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล, หรือสแตนเลส ซึ่งแต่ละวัสดุมีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมต่างกัน
ผลงานสินค้าและบริการของเรา
ตัวอย่างตารางเคเบิ้ลแกลน (ขนาด PG)
ขนาด (PG) | เส้นผ่านศูนย์กลางสายไฟที่รองรับ (มม.) | ขนาดรูเจาะ (มม.) | ความยาวเกลียว (มม.) |
---|---|---|---|
PG7 | 3 – 6.5 | 12.5 | 6 – 8 |
PG9 | 4 – 8 | 15.2 | 6 – 8 |
PG11 | 5 – 10 | 18.6 | 6 – 8 |
PG13.5 | 6 – 12 | 20.4 | 6 – 8 |
PG16 | 10 – 14 | 22.5 | 6 – 10 |
PG21 | 13 – 18 | 28.3 | 6 – 12 |
PG29 | 18 – 25 | 37.0 | 8 – 14 |
PG36 | 22 – 32 | 47.0 | 8 – 14 |
PG42 | 32 – 38 | 54.0 | 8 – 16 |
PG48 | 37 – 44 | 59.3 | 8 – 16 |
สอบถามและปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าได้โดยตรง
บริการนำเข้าทางเครื่องบิน (Air Freight)
มีสต็อกพร้อมส่งในประเทศ รองรับการใช้งานได้ทันที
✅ จัดส่งได้ทันทีภายใน 1–2 วันทำการ
✅ ปริมณฑล และต่างจังหวัด 2-3 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการขนส่งเอกชน) **สามารถระบุได้
สั่งผลิตตามขนาดและความต้องการใช้งานได้
✅เลือกขนาดได้อิสระ: กำหนด ความกว้าง x ความสูง x ความลึก ตามพื้นที่ใช้งาน