เคเบิ้ลแกลนขนาด M25
สแตนเลส 304 (IP68)
เคเบิ้ลแกลน M25 เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยึดสายไฟหรือสายเคเบิ้ลให้มั่นคง ป้องกันการรั่วซึมของน้ำ ฝุ่น และสิ่งสกปรกเข้าสู่ระบบไฟฟ้า โดยมีขนาดเกลียว M25x1.5 (เกลียวเมตริก) และผลิตจากวัสดุ สแตนเลสเกรด 304 ที่มีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนและไม่เป็นสนิม เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือสัมผัสกับสารเคมี
"เคเบิ้ลแกลนขนาด M25 "
หมวดหมู่สินค้า
- หมวด เคเบิ้ลแกลน
- เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส
- เคเบิ้ลแกลนทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล
- เคเบิ้ลแกลนพลาสติก
- เคเบิ้ลแกลนกันระเบิด
คุณสมบัติเด่นของเคเบิ้ลแกลนขนาด M25x1.5 สแตนเลส 304
สินค้านนี้ได้รับมาตรฐานการป้องกันระดับ IP68 ซึ่งมั่นใจได้ว่าสามารถป้องกันน้ำ ฝุ่น และแรงดันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรม เช่น โรงงานเคมี อุตสาหกรรมอาหาร หรือในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง
วัสดุสแตนเลส 304 : ป้องกันการกัดกร่อนในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือความชื้นสูง
Cable gland M25 ผลิตจากวัสดุสแตนเลสเกรด 304 ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องการทนทานต่อการกัดกร่อน แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง หรือสัมผัสกับสารเคมี เช่น กรดและด่าง สแตนเลส 304 จะไม่เป็นสนิมหรือเสื่อมสภาพง่าย นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับงานกลางแจ้งหรือพื้นที่ใกล้ทะเล ซึ่งมีความเค็มจากน้ำทะเลที่สามารถเร่งการกัดกร่อนของโลหะชนิดอื่นได้ วัสดุนี้จึงช่วยเพิ่มอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
มาตรฐาน IP68: ป้องกันน้ำ ฝุ่น และแรงดันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้รับการออกแบบให้ผ่านมาตรฐานการป้องกัน IP68 ซึ่งหมายความว่าสามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ แม้จะถูกใช้งานในพื้นที่ที่ต้องจมน้ำหรือสัมผัสกับฝุ่นละเอียด เช่น งานในโรงงานอุตสาหกรรมหนักหรือพื้นที่ก่อสร้าง นอกจากนี้ การป้องกันน้ำและฝุ่นยังช่วยลดความเสี่ยงของไฟฟ้าลัดวงจรหรือความเสียหายต่อสายเคเบิ้ล ซึ่งเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบไฟฟ้าโดยรวม
รองรับอุณหภูมิ -40°C ถึง 100°C: ทำงานได้ในสภาพอากาศที่ท้าทาย สามารถรองรับการทำงานในช่วงอุณหภูมิกว้าง ตั้งแต่ -40°C จนถึง 100°C ซึ่งเหมาะสำหรับงานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิแปรปรวน เช่น โรงงานที่มีเครื่องจักรที่ปล่อยความร้อนสูง หรือพื้นที่ที่มีอากาศเย็นจัดในฤดูหนาว คุณสมบัตินี้ช่วยให้เคเบิ้ลรัดสายไฟทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างหรือวัสดุ จึงเพิ่มความน่าเชื่อถือในการใช้งานในระยะยาว
เคเบิ้ลแกลนพลาสติก (Plastic Cable Gland) คือ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยึดสายไฟหรือสายเคเบิลเข้ากับแผงหรือโครงสร้างต่าง ๆ โดยใช้วัสดุพลาสติกที่มีคุณสมบัติทนทานและแข็งแรง เช่น พลาสติกไนลอน (PA66) หรือพลาสติกประเภทอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยป้องกันการเคลื่อนที่ของสายไฟหรือสายเคเบิลให้มั่นคงและปลอดภัย ทั้งยังช่วยป้องกันฝุ่นและน้ำจากการเข้าไปในระบบการเดินสายไฟ หรือภายในตัวได้
เคเบิ้ลแกลนทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล (Nickel Plated Brass Cable Gland) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดและป้องกันการเคลื่อนที่ของสายไฟหรือสายเคเบิล โดยตัวเทำจากวัสดุทองเหลืองที่มีการชุบนิกเกิ้ลเพื่อเพิ่มความทนทานและความสามารถในการป้องกันการกัดกร่อน ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง หรือที่ต้องทนต่อสารเคมีและสภาพอากาศที่รุนแรง
เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส (Stainless Steel Cable Gland) เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการยึดและป้องกันการรั่วไหลของสายไฟในระบบไฟฟ้า โดยการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงหรือการใช้งานในที่ที่ต้องการความทนทาน ผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อการสึกหรอได้ดี จึงเหมาะสมสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องเจอกับความเครียดหรือแรงดึงสูง
ข้อต่างจากวัสดุอื่น ๆ เช่น ทองเหลืองหรือพลาสติกในหลายด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของความทนทานและความแข็งแรงที่เหนือกว่า สแตนเลสมีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำและสารเคมีได้ดี เนื่องจากมีฟิล์มป้องกันการเกิดสนิมที่ทำให้ไม่เกิดการสึกกร่อนเมื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสัมผัสกับสารเคมี ซึ่งต่างจากทองเหลืองที่อาจเกิดการกัดกร่อนเมื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง นอกจากนี้ สแตนเลสยังทนทานต่ออุณหภูมิสูงมากกว่าทองเหลืองและพลาสติก ซึ่งทำให้เคเบิ้ลแกลนสแตนเลสเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือมีการระบายความร้อนมากกว่า เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีเครื่องจักรที่ร้อน ในด้านการป้องกันน้ำและฝุ่น สแตนเลสสามารถป้องกันได้ตามมาตรฐาน IP (Ingress Protection) อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่พลาสติกอาจไม่ทนทานหรือเกิดความเสียหายจากสารเคมีได้ง่าย
ส่วนประกอบของเคเบิ้ลแกลนสแตนเลส
การวัดขนาดสายไฟเข้าให้เหมาะสมกับ Cable Gland
ขั้นตอนการตรวจสอบและติดตั้งเกลียว PG, M, และ NPT
ส่วนประกอบสำคัญของเคเบิ้ลแกลนสแตนเลส – Lock Nut, O-Ring, และ Body
Lock Nut (น็อตล็อก) เป็นชิ้นส่วนที่ดูเล็ก แต่มีบทบาทสำคัญในการยึดเคเบิ้ลเข้าสายไฟให้มั่นคงกับพื้นผิวหรือแผงติดตั้ง ตัวน็อตล็อกมาพร้อมกับเกลียวที่แข็งแรงและแม่นยำ ผลิตจาก สแตนเลสซึ่งช่วยป้องกันสนิมและการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่กลางแจ้งหรือสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง
O-Ring (โอริง) เป็นตัวช่วยเสริมที่ขาดไม่ได้ในเคเบิ้ลยึดสายไฟ หน้าที่หลักคือการป้องกันน้ำ ฝุ่น และสารเคมีจากการรั่วซึมเข้าสู่ระบบสายไฟ ตัวโอริงผลิตจากยางคุณภาพสูง เช่น EPDM หรือ NBR ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูงและทนต่ออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงรุนแรง
Body (ตัวเรือน) หรือโครงสร้างหลักของเคเบิ้ลยึดสายไฟ ผลิตจาก สแตนเลส 304 หรือ 316 ซึ่งมีคุณสมบัติต้านทานการกัดกร่อนจากน้ำทะเลหรือกรดอ่อน นอกจากนี้ยังมีความแข็งแรง ทนต่อแรงดึง และการสั่นสะเทือน ทำให้ตัวเรือนนี้เป็นจุดที่เชื่อมต่อสายไฟและอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อย่างปลอดภัย
Seal (ซีล) ซีลคือชิ้นส่วนสำคัญที่ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำ ฝุ่น หรือสิ่งแปลกปลอมผ่านเข้าสู่ภายในเคเบิ้ลรัดสายไฟ ทำหน้าที่รัดสายไฟอย่างแน่นหนา โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องการการซีลแบบ IP68 ซึ่งสามารถกันน้ำได้ในระดับแรงดันสูง ซีลนี้มักผลิตจากวัสดุยางที่มีคุณสมบัติทนทานต่ออุณหภูมิและสารเคมี
Claw (คลอว์) เป็นตัวช่วยยึดสายไฟให้อยู่ในตำแหน่งที่มั่นคงภายในตัวเรือน ออกแบบให้มีลักษณะเหมือนฟันที่ยึดสายไฟแน่นหนาแต่ไม่ทำให้สายไฟเสียหาย วัสดุที่ใช้ผลิตมักเป็นพลาสติกวิศวกรรมหรือโลหะที่มีความแข็งแรงสูง ช่วยลดการเคลื่อนที่ของสายไฟและลดความเสี่ยงต่อการเสียหาย
Thread-lock Sealing Nut (น็อตเกลียวซีลล็อก) ส่วนประกอบนี้ใช้ขันปิดตัวเรือน Cable gland ให้ทุกส่วนทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ หน้าที่หลักคือช่วยบีบซีลและคลอว์ให้ยึดสายไฟแน่นหนา ลดโอกาสการรั่วซึมหรือการเคลื่อนตัวของสายไฟ น็อตเกลียวนี้ผลิตจาก สแตนเลสคุณภาพสูง ที่ทนต่อการกัดกร่อน
การวัดขนาดสายไฟเข้าให้เหมาะสมกับ Cable Gland
วัสดุและคุณสมบัติของส่วนประกอบ
ส่วนประกอบของเคเบิ้ลรัดสายไฟสแตนเลสผลิตจาก สแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 เพื่อป้องกันการกัดกร่อนและความร้อน ตัวซีลยางทำจากซิลิโคนหรือ EPDM เพื่อความยืดหยุ่นและการซีลที่ดีเยี่ยม ชิ้นส่วนทั้งหมดถูกออกแบบให้ทนต่อแรงดึงสูง เพิ่มอายุการใช้งานในระบบไฟฟ้า
หน้าที่ของแต่ละส่วน
Lock Nut และ Washer ทำหน้าที่กระจายแรงและยึดกับแผง, Body เป็นฐานรองรับสายไฟ, Claw ยึดสายไฟไม่ให้ขยับ, Seal ป้องกันน้ำและฝุ่นเข้าสู่ระบบไฟฟ้า และ Sealing Nut ช่วยกดซีลให้แนบสนิท ทั้งหมดช่วยเพิ่มความปลอดภัยในระบบ
ความสำคัญของการเลือกส่วนประกอบ
การเลือกเคเบิ้ลแกลนขนาดที่มีส่วนประกอบครบถ้วนช่วยป้องกันความเสียหายของสายไฟและระบบไฟฟ้า การใช้งานวัสดุคุณภาพ เช่น สแตนเลสและซีลยางเกรดพิเศษ ช่วยยืดอายุการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้นหรือมีสารเคมีรุนแรง เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมหนักและงานกลางแจ้ง
การวัดขนาดสายไฟเข้าให้เหมาะสมกับ Cable Gland
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟ (Outer Diameter)
1. ใช้เครื่องมือวัด เช่น เวอร์เนียร์คาลิเปอร์ หรือ ไมโครมิเตอร์ เพื่อวัดเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟที่บริเวณที่ต้องการติดตั้ง
2. ค่าที่ได้ควรเป็นหน่วย มิลลิเมตร (mm) และต้องวัดให้ครอบคลุมส่วนที่หนาที่สุดของสายไฟ เช่น ฉนวนหรือเปลือกหุ้มภายนอก
3. เปรียบเทียบค่าที่วัดได้กับช่วง “Cable Range” ที่ระบุในข้อมูลทางเทคนิคของ Cable Gland เช่น
ถ้าวัดได้ 16 มม. ให้เลือก Cable Gland ที่รองรับช่วง 13-18 มม.
ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบจำนวนสายไฟที่ใช้ใน Cable Gland เดียวกัน
1. หากใช้ Cable Gland สำหรับสายไฟหลายเส้นในจุดเดียวกัน ต้องรวมเส้นผ่านศูนย์กลางของสายทั้งหมดและเผื่อพื้นที่สำหรับซีลยาง
2. เลือก Cable Gland ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าสายไฟทั้งหมดสามารถร้อยผ่านได้โดยไม่เกิดความเสียหาย
ขั้นตอนที่ 3: พิจารณาเกณฑ์ความเหมาะสมอื่นๆ
1. ความยืดหยุ่นของสายไฟ: หากสายไฟมีความแข็งหรือหนามาก ควรเลือก Cable Gland ที่มีวัสดุและซีลที่รองรับแรงดึงได้ดี เช่น แบบที่มี Clamping Insert
2. ประเภทของสายไฟ: สายไฟที่มีฉนวนพิเศษ เช่น สายไฟกันระเบิดหรือสายไฟที่ใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง ควรเลือก Cable Gland ที่มีมาตรฐาน IP68 หรือเกรดพิเศษ
3. สภาพแวดล้อม: หากใช้งานในพื้นที่ที่มีสารเคมีหรือทะเล ควรเลือก Cable Gland ที่ทำจาก สแตนเลส 304/316
ข้อควรระวังในการเลือกขนาด – ปัญหาจากการเลือกเคเบิ้ลแกลนขนาดผิดพลาด
เลือกขนาดเล็กเกินไป หากขนาดเล็กกว่าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางสายไฟที่ใช้งาน จะทำให้เกิดแรงกดดันสูงที่บริเวณซีลหรือสายไฟ ส่งผลให้สายไฟเสียหาย เช่น เปลือกหุ้มฉนวนแตกหรือฉีกขาด ซึ่งอาจนำไปสู่การรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าหรือความเสี่ยงจากการลัดวงจร วิธีป้องกัน: ใช้เครื่องมือวัดที่แม่นยำ เช่น เวอร์เนียร์คาลิเปอร์ วัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟ และเลือก Cable gland ที่รองรับขนาดสายไฟในช่วง “Cable Range” ที่เหมาะสม ไม่ตรวจสอบเส้นผ่านศูนย์กลางรวมเมื่อใช้สายไฟหลายเส้น หากต้องใช้สายไฟหลายเส้นในเคเบิ้ลยึดสายไฟเดียวกัน ควรคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางรวมของสายไฟทั้งหมด รวมถึงระยะเผื่อสำหรับซีล การมองข้ามข้อนี้อาจทำให้ซีลไม่สามารถปิดสนิท และส่งผลให้เกิดปัญหาระยะยาว เช่น ความเสียหายจากการสั่นสะเทือน
รางกระดูกงู หรือ Cable Drag Chain คือ อุปกรณ์ที่มีหน้าที่ใช้สำหรับจัดเก็บและปกป้องสายไฟ สายเคเบิล ท่อ หรือสายพานต่าง ๆ ที่ต้องการเคลื่อนที่ไปมาภายในบริบทของงานอุตสาหกรรมหรือโรงงาน อุปกรณ์นี้ช่วยลดการเสียดสีและป้องกันสายไฟหักงอ ฉีกขาด หรือสายพานจากการพันกันขณะที่เคลื่อนที่ได้ ป้องกันสายไฟหรือสายพานจากการเสียดสี ที่อาจเกิดขึ้นในการใช้งานประจำ รางกระดูกงู หรือ Cable Drag Chain คือ อุปกรณ์ที่มีหน้าที่ใช้สำหรับจั
กล่องอลูมิเนียมกันน้ำ (Waterproof Aluminum Enclosure) คือ กล่องที่ใช้ในการป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือการสัมผัสกับน้ำ โดยใช้วัสดุอลูมิเนียมที่มีคุณสมบัติทนทานและน้ำหนักเบา ในขณะเดียวกันก็มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมที่มีการใช้งานในที่ชื้นหรือมีฝุ่น
ตู้สแตนเลสไฟฟ้า (Stainless Steel Electrical Enclosure) คือ ตู้ที่ใช้สำหรับป้องกันและเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์เครื่องจักรที่ใช้ในระบบไฟฟ้าในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้งานหนักหรือเงื่อนไขที่ท้าทาย เช่น ความร้อน, ความชื้น, สารเคมี, หรือฝุ่นละออง โดยการใช้วัสดุสแตนเลสในการผลิตตู้ไฟฟ้าทำให้ตู้มีความทนทานต่อการกัดกร่อน และเหมาะสมสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงหรืออุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง
เทคนิคการเลือกเคเบิ้ลแกลนขนาดต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
วัดเส้นผ่านศูนย์กลางสายไฟ (Cable Diameter) ขั้นตอนแรกในการเลือกขนาดเคเบิ้ลรัดสายไฟ คือ การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟที่ต้องการใช้งาน โดยใช้เครื่องมือวัดที่แม่นยำ เช่น เวอร์เนียร์คาลิเปอร์ จากนั้นเลือกขนา Cable gland ที่รองรับขนาดสายไฟในช่วง Cable Range ที่กำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น: สายไฟเส้นผ่านศูนย์กลาง 20 มม. ควรเลือกเคเบิ้ลยึดสายไฟขนาด M25 หรือ PG21 พิจารณาประเภทเกลียว (Thread Type) ประเภทเกลียวของเคเบิ้ลรัดสายไฟมีหลากหลาย เช่น M-Type, PG, NPT ซึ่งเหมาะสำหรับการติดตั้งที่แตกต่างกัน: M-Type: ใช้ในงานที่ต้องการมาตรฐานสากล เช่น เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้าในยุโรป, PG: เหมาะกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ผลิตในระบบมาตรฐานเยอรมัน, NPT: นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมปิโตรเลียมหรือในอเมริกา
อธิบายสรุป
เคเบิ้ลแกลนขนาด M25 คืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้จัดการสายไฟหรือสายเคเบิล โดยมีคุณสมบัติที่เน้นความปลอดภัยและความทนทานสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรมที่ต้องการการป้องกันสายไฟจากความเสียหาย การรั่วซึม และปัจจัยแวดล้อมที่รุนแรง ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความทนทานสูง ด้วยวัสดุ สแตนเลส 304 ที่มีคุณสมบัติป้องกันการกัดกร่อนในพื้นที่ที่มีความชื้นหรือสารเคมี นอกจากนี้ยังผ่านมาตรฐาน IP68 ซึ่งรับรองความสามารถในการป้องกันน้ำ ฝุ่น และแรงดัน ทำให้เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ชื้น